สรุป
วิเคราะห์หุ้น Lockheed Martin (LMT) หลังผลประกอบการ Q2/2025 ขาดทุนหนัก-โดนหั่นเครดิต ทำหุ้นร่วง 11% ปรับราคาเป้าหมายเหลือ 460 ดอลลาร์
บริษัท Lockheed Martin (NYSE: LMT) ผู้ผลิตอากาศยานทางทหารรายใหญ่ของสหรัฐฯ เพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 ที่สร้างความผิดหวังอย่างมากต่อนักลงทุน หลังบริษัทเปิดเผยว่ามีค่าใช้จ่ายพิเศษรวมกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้นร่วงแรงถึง 11% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และกดดันให้นักวิเคราะห์หลายสำนักปรับลดราคาเป้าหมายพร้อมลดเครดิตหุ้นลงทันที
บริษัทรายงานขาดทุนจากโครงการลับในกลุ่มธุรกิจอากาศยานกว่า 950 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนจากโครงการเฮลิคอปเตอร์อีกกว่า 665 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้กำไรต่อหุ้น (EPS) ไตรมาสนี้เหลือเพียง 1.46 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ถึง 78% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์กำไรทั้งปี 2025 ลงเหลือเพียง 21.70–22 ดอลลาร์ ต่อหุ้น จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 27–27.30 ดอลลาร์ แม้จะยังคงเป้ารายได้ทั้งปีที่ 73,750–74,750 ล้านดอลลาร์
Rob Stallard นักวิเคราะห์จาก Vertical Research Partners ระบุว่า แม้ผู้บริหารจะอธิบายสาเหตุของการตั้งสำรองครั้งใหญ่ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าความเสี่ยงจากโครงการลับจะสิ้นสุดเมื่อใด Stallard ปรับลดราคาเป้าหมายหุ้น LMT จาก 505 ดอลลาร์ เหลือ 460 ดอลลาร์ พร้อมคงคำแนะนำ “ถือ” (Hold) โดยชี้ว่า Lockheed ยังต้องเผชิญความท้าทายจากการสูญเสียโครงการ Next Generation Air Dominance รวมถึงการลาออกของ Chief Financial Officer (CFO) ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันด้านความเชื่อมั่นในระยะสั้น
ด้าน Michael Ciarmoli จาก Truist Securities ก็ปรับลดเครดิตหุ้นจาก “ซื้อ” (Buy) เหลือ “ถือ” (Hold) พร้อมลดราคาเป้าหมายเหลือ 440 ดอลลาร์ จากเดิม 554 ดอลลาร์ โดยชี้ว่าค่าใช้จ่ายพิเศษกว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ที่เกิดขึ้นนั้น “กว้างและมากกว่าที่ประเมินไว้” และอาจสะท้อนว่าบริษัทต้องใช้เวลาจัดการปัญหาอีกระยะ ขณะเดียวกัน RBC Capital ก็ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 440 ดอลลาร์ โดยยังคงเรต “Sector Perform” ส่วน UBS ปรับลดเป้าหมายราคาลงเหลือ 453 ดอลลาร์ พร้อมคงคำแนะนำ “Neutral” หลังมองว่าค่าใช้จ่ายที่สูงเกินคาดจะกระทบต่อภาพรวมทางการเงิน
แม้สถานการณ์ทางการเงินจะตึงตัว Lockheed Martin ยังมีแผนออกตราสารหนี้ชุดใหม่เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไป โดยล่าสุด Fitch Ratings ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ประเภท Senior Unsecured Notes ไว้ที่ระดับ A สะท้อนฐานะเครดิตที่ยังแข็งแกร่งในระยะยาว แม้เผชิญแรงกดดันด้านกำไร
ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า ปัจจุบันมีเพียงราว 36% ของนักวิเคราะห์ที่ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น Lockheed ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นในดัชนี S&P 500 ที่มีเรท “ซื้อ” ราว 55%
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาหุ้นจะร่วงแรง นักลงทุนบางส่วนยังมองว่าราคาที่ปรับลงแล้วกว่า 13% ตั้งแต่ต้นปี และต่ำกว่าจุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ถึงราว 32% อาจสะท้อนข่าวร้ายไปมากแล้ว อีกทั้งบางมุมมองเชื่อว่าการตั้งสำรองครั้งนี้อาจเป็นการ “ล้างครัว” หรือเคลียร์ปัญหาสะสมให้จบ แม้จะยังมีความเสี่ยงเรื่องโครงการลับอยู่ก็ตาม ขณะเดียวกัน Lockheed ยังถือเป็นผู้ผลิตอาวุธและเทคโนโลยีกลาโหมรายใหญ่ที่มีดีมานด์สูงในสถานการณ์โลกตึงเครียด จึงมีความหวังว่าหลังจัดการโครงการได้เรียบร้อย บริษัทจะกลับมาสร้างกำไรและกระแสเงินสดได้แข็งแรงอีกครั้ง
ทั้งนี้ Lockheed Martin รายงานรายได้ไตรมาส 2 อยู่ที่ 18,160 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเพียง 1% จากปีก่อนหน้า และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดเล็กน้อย ส่วนกำไรสุทธิไตรมาสนี้อยู่ที่ 342 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 1,600 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อตกลงชิปจีนของ Nvidia และ AMD เพิ่มความเสี่ยงด้านภาษีและกำไร แต่กลับคืนสู่การเข้าถึงตลาดสำคัญ ข้อตกลงนี้อาจเปลี่ยนความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าหรือไม่?
2025-08-11
ราคาหุ้นของ SoftBank พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการลงทุนใน AI การฟื้นตัวของ Vision Fund และแผน IPO ขนาดใหญ่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในปี 2024
2025-08-08
ค่าเงินปอนด์ทรงตัวในวันศุกร์ หลังจากที่สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังกลายเป็นตัวเต็งที่จะได้รับตำแหน่งประธานธนาคารกลางจากทีมของทรัมป์
2025-08-08
