10 อันดับหุ้นที่น่าลงทุน เนื่องตลาดกำลังฟื้นตัว

หลังช่วงเวลาที่ตลาดทั่วโลกยังไม่แน่นอน ตลาดกลับมาแสดงความแข็งแกร่งอีกครั้งในกลางปี 2025 สำหรับนักเทรดและนักลงทุน นี่คือโอกาสใหม่ในการเข้าเล่นตลาด โดยเฉพาะหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีโมเมนตัมการเติบโต และความยืดหยุ่นสูง

ต่อไปนี้คือ 10 อันดับหุ้นที่น่าลงทุนมากสุดตอนนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผลการดำเนินงานล่าสุดและเป็นผู้นำในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม

10 อันดับหุ้นที่น่าลงทุนมากที่สุด

ทำไมถึงควรเลือกหุ้นเหล่านี้?

1. บริษัท Palantir Technologies (PLTR):

ปี 2025 นี้ Palantir โดดเด่นมาก ราคาพุ่งขึ้น 81% ตั้งแต่ต้นปี และทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 144.86 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน ความแข็งแกร่งมาจากการเป็นผู้นำด้าน AI-driven Data Analytics ที่เน้นให้บริการทั้งภาครัฐและเอกชน สัญญาระยะยาวกับภาครัฐยังช่วยหนุนรายได้อย่างมั่นคง ขณะที่ธุรกิจเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง นักวิเคราะห์มองบวกและคาดการณ์การเติบโตสูง ทำให้ PLTR เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของกลุ่มหุ้นเติบโต (Growth Stock)

2. บริษัท Nvidia (NVDA):

หุ้น Nvidia ฟื้นตัวแรงกว่า 50% จากจุดต่ำสุดในเมษายน 2025 และตอนนี้ราคายังห่างจากจุดสูงสุดแค่ 7% เท่านั้น (ที่ 143 ดอลลาร์) รายได้ปีงบประมาณ 2025 พุ่งแรง 114% แตะ 1.3 แสนล้านดอลลาร์ กำไรต่อหุ้นโต 130% เมื่อเทียบปีต่อปี Wall Street มองว่าการเติบโตยังต่อเนื่องจากดีมานด์ชิป AI ที่เพิ่มขึ้นและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ คาดว่ารายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 53%

3. บริษัท Broadcom (AVGO):

ในไตรมาส 2 ปี 2025 Broadcom ทำรายได้ทะลุ 15 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน โดยรายได้จากกลุ่ม AI โตแรงถึง 46% แม้ราคาหุ้นจะมีการพักตัวเล็กน้อยจากความกังวลเรื่องมูลค่า แต่ภาพรวมยังน่าสนใจเพราะ Broadcom มีกำไรสูง กระแสเงินสดอิสระแข็งแกร่ง และผู้นำด้าน AI กับเซมิคอนดักเตอร์ ส่วนธุรกิจซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานอย่าง VMware ก็ยังโตดี ส่งเสริมภาพรวมบวกของบริษัท

4. บริษัท Amazon (AMZN):

Amazon ทำผลตอบแทนได้เหนือกว่า S&P 500 ด้วยการโต 44% ในปี 2024 และยังไต่ระดับจุดสูงใหม่ในปี 2025 รายได้จากการดำเนินงานคาดว่าจะทำสถิติสูงสุดที่ 63 พันล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตเร็วของ AWS, บริการสมัครสมาชิก และโฆษณาดิจิทัล ความแข็งแกร่งในตลาดอีคอมเมิร์ซและคลาวด์ พร้อมด้วยเสียงสนับสนุนจากนักวิเคราะห์ ทำให้ AMZN ยังมีโอกาสขึ้นต่อในช่วงที่ตลาดฟื้นตัว

5. บริษัท Alphabet (GOOGL):

Alphabet รายงานรายได้ปี 2024 ที่ 3.5 แสนล้านดอลลาร์ เติบโต 14% และมีกำไรสุทธิ 1 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% ไตรมาส 1 ปี 2025 รายได้เพิ่ม 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจค้นหา, YouTube และ Google Cloud การลงทุนหนักใน AI, โครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ และการเพิ่มปันผล สะท้อนความมั่นใจในการเป็นผู้นำด้านโฆษณาดิจิทัล, คลาวด์ และ AI ต่อไป

6. บริษัท Microsoft Corp (MSFT):

รายได้ไตรมาส 1 ปี 2025 ของ Microsoft โต 13% กำไรสุทธิเพิ่ม 5% เมื่อเทียบปีต่อปี การลงทุนใน AI อย่าง Azure และ ChatGPT ช่วยเร่งการยอมรับในภาคธุรกิจและเพิ่มรายได้ หุ้น MSFT วิ่งขึ้นจาก 310 เหรียญเป็น 350 เหรียญในครึ่งปีแรก 2025 สะท้อนความแข็งแกร่งในตลาดคลาวด์และสถานะผู้นำเทคโนโลยี

7. บริษัท Intuit (INTU):

Intuit ยังเป็นผู้นำซอฟต์แวร์การเงิน ได้ประโยชน์จากเทรนด์เปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์ ด้วยฐานลูกค้าที่ยึดมั่นสูง นวัตกรรมต่อเนื่องในผลิตภัณฑ์ภาษีและบัญชี รวมถึงรายได้ที่โตสม่ำเสมอ ทำให้ INTU เป็นหุ้นที่มั่นคง เหมาะกับนักลงทุนที่เน้นหุ้นโตตามเทรนด์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน

8. บริษัท Axon Enterprise (AXON):

Axon โตแรงในเทคโนโลยีความปลอดภัยสาธารณะ มีการนำไปใช้ทั่วโลกโดยหน่วยงานตำรวจ โมเดลรายได้แบบซ้ำ และนวัตกรรมสินค้าใหม่ช่วยหนุนผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เหมาะกับนักลงทุนกลุ่ม Growth ที่มองหาหุ้นโตเร็วและยั่งยืน

9. บริษัท NRG Energy (NRG):

NRG เป็นผู้นำกลุ่มพลังงาน ทำผลตอบแทนดีในปีนี้ โฟกัสไปที่พลังงานสะอาดและยั่งยืน เมื่อราคาพลังงานเริ่มนิ่งและความต้องการเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพการดำเนินงานและความเป็นผู้นำในกลุ่มจะช่วยหนุนราคาหุ้นให้โตต่อเนื่อง

10. บริษัท Philip Morris International (PM):

Philip Morris เป็นหุ้นที่ให้ความมั่นคงเรื่องปันผล และมีฐานธุรกิจทั่วโลก จึงเหมาะเป็นหุ้นแนวรับในช่วงตลาดผันผวน การเติบโตของปันผลอย่างสม่ำเสมอ และการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ความเสี่ยงต่ำ ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับนักลงทุน

สิ่งที่ควรจับตาขณะที่ตลาดฟื้นตัว

• การหมุนเวียนภาคส่วน: กลุ่มเทคโนโลยี, พลังงาน และสุขภาพ เป็นผู้นำในการฟื้นตัวของตลาด แต่กลุ่มที่มีความผันผวนตามรอบเศรษฐกิจ (Cyclical Sectors) อาจได้แรงหนุนเมื่อความเชื่อมั่นกลับมา

  
  

• การเติบโตของกำไร: เน้นหุ้นบริษัทที่มีรายได้และกำไรโตแข็งแกร่ง หุ้นกลุ่มนี้มักทำผลตอบแทนได้เหนือกว่าตลาดเมื่อแนวโน้มราคาหุ้นเป็นขาขึ้น

• วินัยในการประเมินมูลค่า: แม้ตลาดจะมีความคึกคัก แต่ควรเลือกหุ้นที่มีมูลค่าพอเหมาะและพื้นฐานแข็งแกร่ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการประเมินมูลค่าที่สูงเกินจริง

  
  

• แนวโน้มโลก: ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ, นโยบายธนาคารกลาง และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางตลาดในระยะถัดไป

บทสรุป

เมื่อตลาดฟื้นตัวในปี 2025 10 อันดับหุ้นที่น่าลงทุน เหล่านี้โดดเด่นด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรม และศักยภาพการเติบโต แต่ละตัวผสมผสานระหว่างโมเมนตัม, นวัตกรรม หรือความมั่นคง ช่วยให้นักเทรดจับโอกาสทำกำไรพร้อมบริหารความเสี่ยงได้ดี

ควรเลือกหุ้นให้เหมาะกับโปรไฟล์ความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนของตัวเองเสมอ และคอยติดตามสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ