ทำไมราคาหุ้น Palantir วันนี้ถึงร่วงลง? มาดูข่าวตลาดล่าสุด รายงานผลประกอบการ และความคิดเห็นของนักวิเคราะห์เบื้องหลังราคาหุ้น PLTR ที่ลดลง
ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2025 หุ้นของ Palantir Technologies (NASDAQ: PLTR) ร่วงลง 7.8% จากระดับสูงสุดล่าสุด กลายเป็นหนึ่งในหุ้นเทคโนโลยีที่ร่วงแรงที่สุดส่งผลให้ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ติดลบตามไปด้วย
แม้ตลาดโดยรวมจะอ่อนตัวในช่วงเวลาดังกล่าว แต่หุ้น Palantir กลับแสดงผลการเคลื่อนไหวที่ย่ำแย่ที่สุด ทำให้เกิดคำถามว่า การร่วงครั้งนี้เกิดจากปัจจัยเฉพาะของบริษัทเอง หรือเป็นผลจากแนวโน้มของกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีโดยรวมกันแน่
บทความนี้จะวิเคราะห์สาเหตุเบื้องหลังการปรับตัวลงของหุ้น Palantir ในครั้งนี้ โดยพิจารณาจากปฏิกิริยาของตลาด ปัจจัยสนับสนุนต่าง ๆ ความกังวลด้านมูลค่าหุ้น และการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์
Palantir Technologies Inc. (NASDAQ: PLTR) ปัจจุบันมีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 119.91 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลดลงในวันเดียวประมาณ 7.8% จากวันก่อนหน้า
ทำไมวันนี้หุ้น Palantir ร่วง? วิเคราะห์ 5 ปัจจัยสำคัญ
1. การทำกำไรหลังจากราคาพุ่งแรง
หุ้น Palantir ปรับตัวขึ้นมากกว่า 74% ตั้งแต่ต้นปี จากความคาดหวังเกี่ยวกับ AI, สัญญาภาครัฐ และแรงหนุนจากนักลงทุน
หลังแตะระดับสูงสุดที่ใกล้ 135 ดอลลาร์ นักลงทุนเริ่มขายทำกำไร ซึ่งเป็นพฤติกรรมทั่วไปหลังราคาขึ้นแรงต่อเนื่อง
2. ความกังวลด้านมูลค่าหุ้นสูงเกินจริง
บริษัทวิจัย Trivariate Research ระบุว่า Palantir เป็นหนึ่งในหุ้นขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีอัตรา P/E ย้อนหลังสูงถึง 565 เท่าและอัตราส่วนราคาต่อยอดขายที่สูงลิ่ว
มูลค่าที่สูงมากเช่นนี้ทำให้หุ้นอ่อนไหว ง่ายหากกำไรหรือแนวโน้มรายได้ไม่สามารถเติบโตตามความคาดหวัง
3. ผลประกอบการไตรมาส 1 และการคาดการณ์ที่ไม่สดใส
แม้ในเดือนพฤษภาคม Palantir รายงานรายได้เติบโตปีต่อปีประมาณ 39% และการใช้งานแพลตฟอร์ม Foundry เพิ่มขึ้นในหน่วยงานรัฐบาลกลาง แต่บริษัทกลับไม่ออกคำแนะนำเชิงบวกในอนาคต ส่งผลให้เกิดความผิดหวังในกลุ่มนักวิเคราะห์
ดังนั้นในวันที่ 6 พฤษภาคม หุ้น Palantir จึงร่วงลงมากกว่า 13% หลังจากรายได้ไตรมาสที่ 1 สูงกว่าที่คาดไว้ (รายได้ 884 ล้านดอลลาร์) แต่ขาดการให้แนวโน้มที่ชัดเจน
เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า หุ้นที่มีมูลค่าสูงมากเช่นนี้แทบไม่มีช่องว่างให้ “ผิดพลาด”
4. การจับตามองความสัมพันธ์กับรัฐบาล
Palantir มีสัญญาจำนวนมากกับหน่วยงานอย่าง ICE, กระทรวงกลาโหม (DoD), และกระทรวงสาธารณสุขฯ (HHS)
แม้เคยเป็นจุดแข็งในเชิงธุรกิจ แต่ตอนนี้ความเกี่ยวพันดังกล่าวกลับถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์และกฎระเบียบ
5. ภาพรวมตลาดเทคโนโลยีอ่อนตัว
ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Tesla, Broadcom, CrowdStrike และ Palantir ต่างปรับตัวลดลง ท่ามกลางภาวะผันผวนสูง ตัวเลขคนว่างงานที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนของตลาด
แรงกดดันในภาคเทคโนโลยีโดยรวมส่งผลให้ราคาของ Palantir ตกต่ำลง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาหุ้น Palantir ร่วงลงอย่างรุนแรงหลังจากหลุดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (20-day SMA) ซึ่งถือเป็นสัญญาณทางเทคนิคเชิงลบ
แรงขายในวันนี้ยังสอดคล้องกับการปรับตัวของหุ้นเทคโนโลยีทั่วทั้งกลุ่ม บ่งชี้ถึงแรงขายจากสถาบันอย่างต่อเนื่อง
หากราคาร่วงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ประมาณ 91 ดอลลาร์ อาจกระตุ้นการปรับตัวลงต่อ
สถานการณ์ระยะกลางมีแนวโน้มขาขึ้น
การนำ AI ไปใช้งานอย่างต่อเนื่อง และงบประมาณด้านเทคโนโลยีของภาครัฐ มีแนวโน้มจะสนับสนุนการเติบโต
หากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคเริ่มมีเสถียรภาพ และมีเงินทุนไหลเข้าสู่หุ้นเทคโนโลยีที่เคยร่วงแรง อาจช่วยประคองราคาหุ้น
นักวิเคราะห์บางรายมองว่าหากการเติบโตยังดำเนินต่อ เป้าราคาสูงสุดอาจไปถึง 140 ดอลลาร์
ความเสี่ยงที่ควรระวัง
มูลค่าหุ้นสูงเกินจริง: แม้แต่การพลาดเป้าการเติบโตเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงแรง
กระแสต้านทางการเมืองในบางประเทศ อาจทำให้สัญญากับภาครัฐชะลอตัวหรือถูกตรวจสอบ
ภาวะตลาดเทคโนโลยีถดถอย หรือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจกดดันราคาหุ้น
ฉันทามติจากนักวิเคราะห์
นักวิเคราะห์ประเมินราคาหุ้น Palantir ในกรอบที่กว้างตั้งแต่ 40 ถึง 150 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนสูง
ค่าเฉลี่ยเป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 100 ดอลลาร์ ซึ่งหมายถึงความเสี่ยงขาลงจากระดับปัจจุบันประมาณ 20%
บริบททางประวัติศาสตร์: ความผันผวนของหุ้น Palantir
ก.ย. 2020 – ธ.ค. 2022: หุ้น Palantir ร่วงลงถึง 84.6% จากระดับ 39 ดอลลาร์ เหลือเพียง 6 ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงประมาณ 25%
ต.ค. 2024 – มิ.ย. 2025: หุ้นฟื้นตัวอย่างรุนแรงกว่า 1,900% จากระดับต่ำสุด ด้วยแรงหนุนจากสัญญาภาครัฐและการเติบโตของ AI
การร่วงในวันนี้จึงอาจเป็นเพียง “การพักฐาน” ปกติหลังจากราคาพุ่งแรงเกินพื้นฐาน
นักเทรดระยะสั้น (Short-Term Traders):
ตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (~108ดอลลาร์)
เฝ้าดูปริมาณการซื้อขายใน Nasdaq/S&P ว่ามีแรงขายสะสม (distribution days) หรือไม่
พิจารณาใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง เช่น การซื้อ Put Option หากคาดว่าราคาจะร่วงต่อ
นักลงทุนระยะยาว (Long-Term Investors):
ให้ความสำคัญกับผลประกอบการไตรมาส 2 โดยเฉพาะตัวเลขการเติบโตและแนวโน้ม
ประเมินระดับความเสี่ยงตามสัดส่วนหุ้น Palantir ที่ถืออยู่ในพอร์ต
ติดตามปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค เช่น การปรับขึ้นดอกเบี้ยโดย FED และความเชื่อมั่นผู้บริโภค
นักเทรดแบบ Swing Trade:
สังเกตการเคลื่อนไหวของหุ้นเทคโนโลยีร้อนแรง เช่น Tesla และ CrowdStrike เพื่อดูรูปแบบความสัมพันธ์
เฝ้าระวังจุดกลับตัวที่แนวรับทางเทคนิค เช่น บริเวณ 110 หรือ 100 ดอลลาร์
การร่วงลงของหุ้น Palantir ในวันนี้สะท้อนถึงปัจจัยหลายประการที่มาบรรจบกัน ไม่ว่าจะเป็นการขายทำกำไร มูลค่าหุ้นที่สูงเกินจริง การขายหุ้นโดยผู้บริหาร แนวโน้มผลประกอบการที่ไม่สดใส และความไม่แน่นอนในตลาดเทคโนโลยี
นักเทรดควรจับตาความเคลื่อนไหวทางเทคนิคบริเวณแนวรับที่ 120 ดอลลาร์ และติดตามปัจจัยกระตุ้นใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่นักลงทุนระยะยาวอาจพิจารณาทยอยสะสมหุ้นในจังหวะที่ราคาปรับฐาน โดยมีเงื่อนไขว่าการเติบโตในเชิงพาณิชย์ต้องขยายตัวควบคู่กับสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่เริ่มมีเสถียรภาพ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เรียนรู้วิธีการกู้ยืมเงินโดยใช้หุ้นเป็นหลักประกันใน 3 ขั้นตอนที่ชัดเจนโดยไม่ต้องขายสินทรัพย์ของคุณหรือสละสิทธิ์การเป็นเจ้าของ โดยใช้ทางเลือกการจัดหาเงินทุนที่มีหลักประกันอย่างชาญฉลาด
2025-06-10เรียนรู้ว่ากลยุทธ์การซื้อขาย RSI ช่วยระบุสัญญาณการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป ตรวจจับความแตกต่าง และปรับปรุงจังหวะการซื้อขายด้วยเครื่องมือยืนยันที่เรียบง่ายได้อย่างไร
2025-06-09ราคาทองคำในวันนี้สะท้อนถึงภาวะเงินเฟ้อ ความไม่แน่นอนของโลก และการเคลื่อนไหวของธนาคารกลาง สำรวจราคาล่าสุด แนวโน้มสำคัญ และปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน
2025-06-09