เรียนรู้ว่า Herd Mentality คืออะไร และส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินอย่างไร รวมถึงทำไมการเข้าใจพฤติกรรมนี้จึงช่วยปกป้องพอร์ตการลงทุนจากความผิดพลาดที่มีค่าใช้จ่ายสูงได้
อารมณ์มักจะมีบทบาทสำคัญในการลงทุนและการเทรด เมื่อคนส่วนใหญ่เคลื่อนไปทางเดียวกัน คนอื่น ๆ ก็มักจะตามไปด้วย ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Herd Mentality” หรือพฤติกรรมฝูงชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของตลาดการเงิน
ตั้งแต่ฟองสบู่ทางการเงินจนถึงการล่มสลายของตลาด เราจะเห็นพฤติกรรมฝูงชนส่งผลต่อเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ในประวัติศาสตร์การเงินอยู่บ่อยครั้ง แต่จริง ๆ แล้ว Herd Mentality คืออะไร? ทำไมนักลงทุนถึงมักตกเป็นเหยื่อ? แล้วเราจะจัดการกับพฤติกรรมนี้ได้อย่างไร?
ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับ Herd Mentality อย่างละเอียด รวมถึงสาเหตุ ตัวอย่าง ผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของตลาด และกลยุทธ์ในการรับมือกับผลกระทบเหล่านี้
Herd Mentality คือความโน้มเอียงของคนที่จะทำตามกลุ่มใหญ่ โดยไม่คิดวิเคราะห์หรือตัดสินใจด้วยตัวเองอย่างรอบคอบ
ในโลกการเงิน หมายความว่านักลงทุนมักซื้อหรือขายสินทรัพย์เพียงเพราะเห็นคนอื่นกำลังทำ โดยไม่ได้ดูข้อมูลหรือกลยุทธ์ของตัวเอง
ปัจจัยทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อ Herd Mentality
ปัจจัยทางจิตใจที่ทำให้เกิด Herd Mentality มีหลายอย่าง เช่น
ความกลัวที่จะพลาดโอกาส : นักลงทุนอาจรีบเร่งซื้อสินทรัพย์ที่ราคาปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสทำกำไร
การยืนยันทางสังคม : ความเชื่อว่าถ้าคนจำนวนมากลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง แสดงว่าสินทรัพย์นั้นเป็นการตัดสินใจที่ดี
การตัดสินใจตามคนอื่น : การตัดสินใจตามคนอื่น โดยคิดว่าการกระทำนั้นมีข้อมูลรองรับ
อคติยืนยันความเชื่อ : อคติที่ชอบหาแต่ข้อมูลยืนยันความคิดเดิม ทำให้พฤติกรรมกลุ่มยิ่งแข็งแรงขึ้น
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เราลืมวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล และบางครั้งก็ทำให้เกิดพฤติกรรมที่สวนทางกับมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ได้
Herd Mentality กับการลงทุนอย่างมีเหตุผล
ด้าน | Herd Mentality | การลงทุนอย่างมีเหตุผล |
---|---|---|
แนงจูงใจ | อารมณ์ อิทธิพลของฝูงชน | ข้อมูล การวิเคราะห์ วินัย |
การตัดสินใจ | ตอบสนองทันทีและใจร้อน | วางแผนล่วงหน้าและมีกลยุทธ์ |
ระยะเวลาการลงทุน | ระยะสั้น | ระยะยาว |
การบริหารความเสี่ยง | มักจะถูกละเลย | วางแผนอย่างรอบคอบ |
ผลลัพธ์ที่พบบ่อย | ซื้อแพง ขายถูก | ซื้อถูก ขายแพง |
1. ตลาด Forex
ในตลาด Forex Herd Mentality สามารถทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของค่าเงินในวงกว้าง โดยอิงจากการเก็งกำไรมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน
ปฏิกิริยาของตลาดต่อข่าวสาร : เมื่อธนาคารกลางส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยหรือเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจ นักเทรดอาจรีบซื้อหรือขายสกุลเงินนั้น แม้ว่าการเคลื่อนไหวนั้นจะไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานระยะยาว เมื่อสถาบันใหญ่หรือนักวิเคราะห์ชื่อดังแนะการนำเทรด คนอื่น ๆ ก็จะตามมาอย่างรวดเร็ว ทำให้แนวโน้มขยายตัวมากขึ้น
ฟองสบู่เก็งกำไร : หากนักเทรดเห็นว่าสกุลเงินแข็งค่าขึ้น พวกเขาอาจซื้อเพียงเพราะหวังว่าจะทำกำไรจากแรงส่งนี้ พฤติกรรมแบบกลุ่มนี้สามารถดันราคาเงินให้สูงเกินจนสู่ระดับที่ไม่ยั่งยืน และนำไปสู่การปรับฐานอย่างรุนแรงในภายหลัง
การเกิด Stop-loss Cascades : การที่กลุ่มคนขายสกุลเงินพร้อมกัน อาจทำให้คำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-loss) ถูกเรียกใช้หลายครั้ง จนทำให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเทรดอัตโนมัติที่เกิดจาก Herd Mentality มากกว่าการวิเคราะห์เหตุผล
2. ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน หรือสินค้าเกษตร Herd Mentality จะยิ่งทำให้ราคาผันผวนมากขึ้น และมักมองข้ามปัจจัยอุปสงค์อุปทานที่แท้จริง
วัฏจักรความกลัวและความโลภ : สินค้าโภคภัณฑ์มีความอ่อนไหวต่อเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ความคาดหวังด้านเงินเฟ้อ และแนวโน้มเศรษฐกิจ ตัวอย่างเช่น ความตื่นตระหนกเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันอาจทำให้ผู้ค้าหลายรายซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าอุปทานที่แท้จริงจะยังไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม ผู้ค้ารายอื่นๆ ทำตามเพราะกลัวพลาดโอกาส (FOMO) ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น
การรวมตัวกันเพื่อซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย : สินค้าโภคภัณฑ์ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ความคาดหวังเงินเฟ้อ และแนวโน้มเศรษฐกิจ เช่น ความตื่นตระหนกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันอาจทำให้นักเทรดจำนวนมากซื้อสัญญาน้ำมันล่วงหน้า ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าปริมาณน้ำมันจริงยังไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม คนอื่น ๆ ก็จะตามซื้อเพราะกลัวพลาดโอกาสทำให้ราคายิ่งสูงขึ้น
การเทรดที่แออัด : เมื่อทุกคนเดิมพันในทิศทางเดียวกันของสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดก็จะแออัดไปด้วยผู้คน เมื่อความรู้สึกของตลาดเปลี่ยน ราคาก็อาจพลิกกลับอย่างรุนแรง เพราะกลุ่ม Herd Mentality รีบออกจากตลาดพร้อมกัน
3. ตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในการสังเกตพฤติกรรมแบบ Herd Mentality
ตลาดขาขึ้นและขาลง : ตลาดขาขึ้นและขาลงมักถูกขับเคลื่อนโดยพฤติกรรมของฝูงคน ในตลาดขาขึ้น ราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นจะดึงดูดผู้ซื้อเพิ่ม แม้ราคาจะเกินมูลค่าพื้นฐาน สำหรับตลาดขาลง การเทขายด้วยความตื่นตระหนกทำให้ราคาดิ่งลง เพราะนักลงทุนต่างรีบขายออกพร้อมกัน
หุ้น Meme และความกลัวพลาดโอกาส : ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการพุ่งขึ้นของราคาหุ้น GameStop (GME) ในปี 2021 ซึ่งกลุ่มนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากได้ประสานงานกันผ่าน Reddit การเข้าซื้อพร้อมกันของคนหมู่มากนี้ ทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงอย่างผิดปกติ โดยไม่อิงกับปัจจัยพื้นฐาน สะท้อนให้เห็นว่าพฤติกรรมฝูงชนที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และแรงสนับสนุนทางสังคมสามารถสร้างความผิดปกติให้กับตลาดได้
การตอบสนองเกินจริงต่อกำไรและแนวโน้ม : เมื่อหุ้นขนาดใหญ่รายงานผลประกอบการต่ำกว่าคาด หมู่คนอาจรีบเทขายทันที แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานระยะยาวจะยังแข็งแกร่ง ความกลัวที่จะขาดทุนจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเสริมพฤติกรรมการขายของฝูงชนให้ยิ่งรุนแรงขึ้น
ตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ของพฤติกรรมแบบ Herd Mentality
1) ฟองสบู่ดอทคอม (ช่วงปลายทศวรรษ 1990 – ต้นทศวรรษ 2000)
ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 นักลงทุนจำนวนมากแห่ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นสูงเกินจริง แม้หลายบริษัทจะยังไม่มีโมเดลธุรกิจที่มั่นคงก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่ตลาดปรับตัวลงความเสียหายก็เกิดขึ้นอย่างรุนแรง
2) วิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2008
ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ในปี 2008 มีความเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าราคาที่อยู่อาศัยจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการกู้ยืมและการลงทุนในตราสารหนี้ที่อิงกับสินเชื่อที่อยู่อาศัยในระดับสูง เมื่อฟองสบู่ที่อยู่อาศัยแตกก็ส่งผลให้เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก
3) การขายชอร์ตของ GameStop ( ปี 2021)
เมื่อต้นปี 2021 นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากรวมตัวกันผ่านเว็บบอร์ดออนไลน์เพื่อซื้อหุ้น GameStop จนนำไปสู่สถานการณ์ “Short Squeeze” ขนาดใหญ่ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมแบบ Herd Mentality ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนจากโซเชียลมีเดีย สามารถส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นได้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เกิดจาก Herd Mentality นักลงทุนสามารถนำกลยุทธ์ต่อไปนี้ไปปรับใช้:
การวิเคราะห์อย่างเป็นอิสระ : ตัดสินใจลงทุนโดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและการศึกษาวิจัยอย่างรอบคอบ แทนที่จะตามกระแสตลาด
การกระจายความเสี่ยง : ลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทเพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาดเพียงจุดเดียว
มุมมองระยะยาว : มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายการลงทุนในระยะยาว มากกว่าความผันผวนของตลาดในระยะสั้น
ตระหนักถึงอคติส่วนตัว : เข้าใจว่าอคติและความเชื่อส่วนตัวอาจส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนได้
ปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงิน : ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้มุมมองที่เป็นกลางในการเลือกการลงทุน
การนำกลยุทธ์เหล่านี้มาใช้สามารถช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น และหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบจาก Herd Mentality ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Herd Mentality ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดการเงิน ซึ่งหลายครั้งนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนที่ขาดเหตุผล และทำให้ตลาดเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติจากปัจจัยพื้นฐาน
หากนักลงทุนสามารถเข้าใจแรงจูงใจทางจิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลังพฤติกรรมนี้ และเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อลดอิทธิพลของพฤติกรรมดังกล่าว ก็จะช่วยให้การตัดสินใจลงทุนมีความรอบคอบมากขึ้น พร้อมทั้งมีส่วนช่วยให้ตลาดการเงินมีเสถียรภาพยิ่งขึ้นในระยะยาว
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เรียนรู้วิธีการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ด้วยคู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นเล่มนี้ ค้นพบวิธีที่ดีที่สุดในการได้รับผลตอบแทนจากทองคำ น้ำมัน และสินทรัพย์ทางการเกษตร
2025-05-27เข้าใจเทรดออปชันแบบง่าย ๆ เรียนรู้สิทธิในการซื้อ-ขาย กลยุทธ์ ความเสี่ยง และเหตุผลที่ทำให้เทรดออปชันนิยมใช้ทั้งป้องกันความเสี่ยงและเก็งกำไร
2025-05-27ค้นพบคู่สกุลเงินแปลกใหม่ชั้นนำที่ควรจับตามอง และว่าคู่สกุลเงินเหล่านี้สามารถนำเสนอทั้งโอกาสและความเสี่ยงในตลาดฟอเร็กซ์ได้อย่างไร
2025-05-27