หุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากนโยบายใหม่ของสหรัฐฯ และผลกำไรของบริษัทที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
หุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้นในวันพุธ เนื่องมาจากนโยบายใหม่มากมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกอบกับผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งที่ช่วยเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทรัมป์ไม่ได้ประกาศภาษีศุลกากรในช่วงเริ่มต้นของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 2 ของเขา แต่เขาให้คำมั่นว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากสหภาพยุโรป และกล่าวว่ารัฐบาลของเขากำลังหารือเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีศุลกากร 10 เปอร์เซ็นต์จากสินค้าจากจีนในเดือนหน้า
นอกจากนี้ เขายังประกาศการลงทุนภาคเอกชนมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในสหรัฐอเมริกา OpenAI, SoftBank และ Oracle จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนและเริ่มต้นด้วยศูนย์ข้อมูลในเท็กซัส
กองทุนป้องกันความเสี่ยงที่ซื้อขายหุ้นของสหรัฐฯ เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยระดับเลเวอเรจรวมที่อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2010 และผู้ค้าหุ้นในยุโรปก็มีมุมมองบวกเช่นกัน ตามรายงานของ Morgan Stanley
สัดส่วนของสหรัฐฯ ในโครงการลงทุนข้ามพรมแดนทั่วโลกพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในช่วง 12 เดือนก่อนเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ประเทศนี้สามารถดึงดูดโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ใหม่ได้มากกว่าจีนและยุโรปมาก
คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตแซงหน้าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ต่อไป ตามตัวเลขของ IMF โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโต 2.7% ในปี 2025 เมื่อเทียบกับการขยายตัวเพียง 1% ในเขตยูโร
ดัชนี Nasdaq 100 พลิกกลับจากแนวโน้มขาลงในสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้ดัชนีได้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 6 มกราคมเหนือระดับ 21,720 และแนวโน้มการพุ่งขึ้นน่าจะดำเนินต่อไปสู่แนวต้านถัดไปที่ระดับ 21,900
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ