ทำความรู้จักโบรกเกอร์ Forex พร้อมเคล็ดลับการเลือกโบรกเกอร์

2025-01-08
สรุป

โบรกเกอร์ Forex คือ ตัวกลางเชื่อมโยงนักลงทุนกับสถาบันการเงิน โดยทำการรับคำสั่งซื้อขายจากนักลงทุนส่งต่อไปยังธนาคาร เพื่อจับคู่คำสั่งซื้อขายในสินทรัพย์นั้นๆ

ในปัจจุบันโบรกเกอร์ Forex ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อผู้ที่ชื่นชอบการลงทุนใน Forex และมีนักลงทุนจำนวนมากที่ให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นตลาดลงทุนจากทั่วโลก มีสภาพคล่องสูงและสามารถทำกำไรได้จากความผันผวนมากว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ แต่ได้มากก็ย่อมเสียมาก


เทรดเดอร์มือใหม่คงจะเคยได้ยินโบรกเกอร์ Forex กันมาบ้าง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักให้มากขึ้น และรับรองว่าถ้าอ่านบทความนี้จบ คุณจะเข้าความสำคัญของโบรกเกอร์ และรู้วิธีเลือกโบรกเกอร์ยังไงไม่ให้ถูกหลอก

โบรกเกอร์ Forex ในโลกนี้ - ebc

โบรกเกอร์ Forex คืออะไร?

โบรกเกอร์ คือ บริษัทหรือองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง เชื่อมโยงระหว่างนักลงทุนและผู้ให้สภาพคล่อง (liquidity provider) หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อทำการซื้อขายในสินทรัพย์นั้นๆ ผ่านเครื่อข่ายออนไลน์ เช่น หุ้น, ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ


โดยโบรกเกอร์จะรับคำสั่งซื้อ หรือคำสั่งขายจากนักลงทุน และส่งตรงไปยังธนาคาร ในการจับคู่คำสั่งซื้อขาย การส่งคำสั่งแบบนี้เรียกว่า No-Dealing Desks


แต่การส่งคำสั่งซื้อของโบรกเกอร์ยังทำได้อีกแบบ นั้นคือ Dealing Desk หรือการที่โบรกเกอร์รับคำสั่งซื้อขายจากเทรดเดอร์ และทำการจับคู่คำสั่งด้วยตัวโบรกเอง โดยไม่ผ่านธนาคาร


รู้จักโบรกเกอร์กันไปแล้ว ที่นี่ต้องรู้ก่อนว่า Forex คืออะไร?


Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange คือ ตลาดที่ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินจากสกุลเงินหนึ่งไปเป็นอีกสกุลเงินหนึ่ง หรือบางที่อาจเรียกตลาดนี้ว่าเป็น ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ หากเราต้องการไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน เราต้องไปที่ธนาคาเพื่อทำการแลกเงินบาท เป็น เงินหยวน ถึงสามารถซื้อขายได้ในประเทศจีน ดังนั้น โบรกเกอร์ Forex จึงเป็นตัวกลางหรือธนาคารที่ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินออนไลน์


ทำไมต้องมีโบรกเกอร์ Forex?

เนื่องจากตลาด Forex หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นตลาดที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก โดยมีปริมาณซื้อขายเฉลี่ยนต่อวันอยู่ที่หลาย 6-7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสามารถทำการซื้อขาย 5 วันทำการ ตลอด 24 ชั่วโมง เว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ 2 วัน (นอกจากนี้ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือเทศกาลต่าง ๆ อาจส่งผลทำให้ เวลาตลาดเปิด-ปิดมีการเปลี่ยนแปลง นักลงทุนควรติดตามการแจ้งเตือนจากโบรกเกอร์ Forex)


การซื้อขายมหาศาลในตลาด Forex จะเปิดให้ซื้อขายเฉพาะสถาบันการเงิน ธนาคารกลาง กองทุนเฮดจ์ฟันด์ หรือผู้เล่นรายใหญ่เท่านั้น และตลาด Forex มีรูปแบบการซื้อขายที่เรียกว่า Over-the-Counter หรือการซื้อขายโดยตรง (ไม่มีตลาดกลาง) ดังนั้นนักลงทุนรายย่อยอย่างเรา จึงจำเป็นต้องพึ่งโบรกเกอร์ Forex


อีกอย่างหนึ่งคือ โบรกเกอร์ Forex ช่วยเพิ่มความสะดวกให้เรา เมื่อก่อนเวลาจะทำธุรกรรมต่าง ๆ เราจะต้องไปที่ธนาคารเพื่อทำธุรกรรมหรือแลกเงิน การมีโบรกเกอร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางซื้อขาย ทำให้นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมผ่านโบรกเกอร์ได้ อีกทั้งยังประหยัดเวลาขึ้นเยอะเลย คุณว่าไหม?


หน้าที่ของโบรกเกอร์ Forex

1.บริการแพลตฟอร์มเทรด

โบรกเกอร์จัดหาแพลตฟอร์มที่สามารถทำการซื้อขายให้กับเทรดเดอร์ โดยในปัจจจุบัน แอพเทรด Forex ที่ใช้กันมากที่สุดคือ MetaTrader 5 (MT5) หรือเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดจาก MetaTrader 4 (MT4) ซึ่งถือเป็นแอพมาตรฐาน ใช้งานง่ายและเครื่องมือวิเคราะห์กราฟ และ Indicator ที่ครบครัน นักลงทุนมือใหม่ควรจะศึกษาวิธีใช้งานเพิ่มเติม ซึ่งในโลกออนไลน์มีผู้สอนไว้เยอะมาก


2.ตัวกลางซื้อขาย

อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า โบรกเกอร์ Forex จะทำหน้าที่เป็นตัวกลาง หรือนายหน้าในการรับส่งคำสั่งซื้อ ซึ่งจะต้องดำเนินการผ่าน server ของโบรกที่ตั้งอยู่ในเขตภูมิภาคการเงินหลัก ๆ เช่น ลอนดอน นิวยอร์ก ฮ่องกง โตเกียว สิงค์โปร เป็นต้น ทำให้ไม่ว่าเทรดเดอร์จะอยู่ที่ไหน ก็สามารถส่งคำซื้อขายได้ ดังนั้นการที่มี server อยู่หลาย ๆ แห่งยังบอกถึงประสิทธิภาพในการจับคู่คำสั่งซื้อของโบรกเกอร์อีกด้วย


3.สนับสนุนข้อมูลเชิงลึก

การทำงานของโบรกเกอร์ Forex โดยส่วนใหญ่จะเหมือนกัน แต่ที่แตกต่างกันไปคือ การให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน เช่น มอบเครื่องมือวิเคราะห์ตลาด, เครื่องมือตัวชี้วัด, กราฟวิเคราะห์ทางเทคนิค, ร่วมถึงข่าวเศรษฐกิจรายวัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้อ้างอิงและนำไปพิจรณาก่อนตัดสินใจลงทุนได้เป็นอย่างดี


4.เปิดบัญชีเทรด

ก่อนเริ่มเทรด Forex ต้องทำการเปิดบัญชีกับทางโบรกเกอร์ก่อน โดยโบรกจะนำเอาข้อมูลส่วนตัวและแบบประเมิณความเสี่ยงของนักลงทุนจัดเก็บไว้เป็นข้อมูลหลักฐาน และส่งต่อไปให้ธนาคาร เพื่อทำการเปิดบัญชี ซึ่งการขอรายละเอียดข้อมูล และระยะเวลาเปิดแต่ละประเภทบัญชีก็แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่เลือกด้วย


5.คุ้มครองนักลงทุน

โบรกเกอร์ที่จริงจัง ควรใส่ใจให้ความคุ้มครองนักลงทุน ถือเป็นข้อที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ ตลาด Forex ถือเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง เพราะมีปัจจัยจากหลายแห่ง รวมถึงความเสี่ยงที่โบรกเกอร์ล้มละลาย หรือปิดหาย


ดังนั้น โบรกเกอร์ Forex ที่มีความน่าเชื่อถือจะให้ความสำคัญกับการปกป้องนักลงทุนจากความเสี่ยงต่าง ๆ โดยมีมาตรการที่คอยดูแลทั้งในเรื่องเงินทุนและความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล


เทรดเดอร์ตกลงเลือกโบรกเกอร์ Forex - ebc

การเลือกโบรกเกอร์ Forex

1.ภาพลักษณ์โบรกเกอร์

ภาพลักษณ์ เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงเป้าหมายปลายทางของโบรกเกอร์ เช่น บางโบรกเกอร์มีการร่วมมือกับสถาบันการเรียนรู้ จัดตั้งการเรียนการสอน งานสัมมนาให้ความรู้การเงินกับผู้ที่สนใจลงทุน อีกทั้งยังไม่ตกเป็นเหยื่อของการลงทุน นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือกับองค์กรชั้นนำต่าง ๆ เช่น โครงการ CSR หรือเป็นสปอนเซอร์ให้กับสโมสรฟุตบอล ซึ่งบอกถึงความมั่นคงทางการเงินของโบรกเกอร์เลยก็ว่าได้ ยิ่งพันธมิตรเยอะ ยิ่งแสดงถึงความมั่นคง และความตั้งใจของโบรกเกอร์ Forex


2.ใบอนุญาตและความน่าเชื่อถือ

สิ่งที่โบรกเกอร์ Forex ขาดไม่ได้คือ ใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน เพราะเป็นประตูบานแรกที่จะได้รับความไว้วางใจจากเทรดเดอร์ ซึ่งในปัจจุบันใบอนุญาตที่ได้รับความนิยมและมีมาตรฐานระดับสากลคือ ใบอนุญาต FCA และ ASIC เนื่องจากมีหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวด หากเราเลือกโบรกเกอร์ที่มี 2 ใบอนุญาตนี้  สามารถรับรองได้ถึงความปลอดภัยและมั่นคงระยะยาว


แต่ในบางกรณีมีการแอบอ้างใบอนุญาต หรือใช้ใบอนุญาตปลอม ซึ่งเราไม่ตรวจสอบได้จากหน้าเว็ปไซต์โบรกเกอร์ สิ่งที่สามารถทำได้คือ ตรวจเช็คกับเว็ปไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรง เช่น เว็ปไซต์หน่วยงาน FCA หรือ ASIC


3.ประเภทบัญชี

โบรกเกอร์ Forex มี 2 ประเภทบัญชีหลัก คือ บัญชีเทรดจริง และบัญชีทดลอง (Demo Account) บัญชีจริงก็แบ่งแยกออกไปตามแต่ละโบรก เช่น บัญชีมาตรฐาน บัญชี ECN บัญชี STP บัญชี FCA และอื่นๆ โดยแต่ละบัญชีก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าฝากถอนขั้นต่ำ ค่าสเปรดและอื่นๆ ดังนั้น ก่อนเลือกประเภทบัญชี เทรดเดอร์ควรศึกษาละเอียดและหาบัญชีที่เหมาะสมกับการเทรด


4.ผลิตภัณฑ์เทรด

การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดเป็นสิ่งสำคัญ เทรดเดอร์ควรเลือกสินทรัพย์ที่สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของตนเอง นอกจากนี้ โบรกเกอร์ Forex ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายให้เลือกเทรด อาจแสดงถึงความมั่นคงทางการเงิน และความใส่ใจต่อความต้องการที่แตกต่างกันของนักลงทุน


5.ค่าดำเนินการจากโบรกเกอร์

รายได้หลักของโบรกเกอร์ มาจากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าสเปรด สวอป ค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน หรือค่าธรรมเนียมแอบแฝง ค่าดำเนินการเหล่านี้ ยังเป็นตัวชี้วัดชั้นดีของมาตรฐานหรือความซื่อสัตย์ของโบรกเกอร์ Forex


ก็จริงอยู่ที่ว่า ค่าธรรมเนียมหรือสเปรดต่ำช่วยเพิ่มผลตอบแทน แต่บางโบรกเกอร์ที่ให้บริการสเปรดต่ำมากจนเกินไป อาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ แทน เช่นค่าสลิปเพจ (Slippage) เป็นต้น ดังนั้นเราไม่ควรเลือกค่าธรรมเนียมที่สูงหรือต่ำเกินไป


ซึ่งค่าธรรมเนียมเฉลี่ยอุตสาหกรรมในผลิตภัณฑ์ Forex อาจเปลี่ยบเทียบค่อนข้างยาก เพราะมีหลายคู่เงิน ในที่นี้จะยกตัวอย่าง ค่าสเปรดที่ต่ำสุดคือ EURUSD อยู่ที่ 0 pips และสูงสุดคือ GBPAUD อยู่ที่ 18 pips ทั้งนี้เทรดเดอร์สามารถเข้าไปดูราคาได้ในเว็ปไซต์ของโบรกเกอร์ Forex และทดสอบก่อนตัดสินใจลงทุนจริง


6.รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีและสื่อโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส แต่ด้วยปริมาณข้อมูลที่หลั่งไหลผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เทรดเดอร์จึงต้องใช้วิจารณญาณในการคัดกรองข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ


การอ่านรีวิวและความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Blogger การลงทุน หรือเว็บไซต์รีวิวโบรกเกอร์ Forex ถือเป็นวิธีที่ช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของการให้บริการโบรกเกอร์นั้นๆ


7.ความเร็วฝาก-ถอนเงิน

ในโลกการเทรด Forex ความรวดเร็วและความสะดวกในการฝาก-ถอนเงิน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เทรดเดอร์ใช้พิจารณาเลือกโบรกเกอร์ Forex เพราะการฝาก-ถอนที่มีประสิทธิภาพ สามารถส่งผลโดยตรงต่อกลยุทธ์การเทรดและความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการเงินทุน


8.บริการที่ตอบโจทย์

ในตลาด Forex ที่มีการแข่งขันสูง การบริการลูกค้า (Customer Service) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้โบรกเกอร์มีความโดดเด่นและได้รับความไว้วางใจ ซึ่งความสามารถในการให้บริการในแต่ละโบรกจะแตกต่างกันไป ซึ่งหากได้รับการบริการที่ตรงจุด ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว


สำหรับเทรดเดอร์มือเก่า มือใหม่ การได้รับบริการที่รวดเร็ว ทันใจ ออนไลน์ 24 ชั่วโมง อาจทำให้คุณประทับใจ แต่หากคุณได้รับบริการที่จริงใจ ค่อยแนะนำตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงการถอนเงิน นั้นบ่งบอกถึงความใส่ใจ


นักลงทุนโทรศัพท์ถามรายละเอียดโบรกเกอร์ Forex - ebc

โบรกเกอร์ Forex ทำเงินอย่างไร?

1.ค่าสเปรด

ค่าสเปรด (Spread) คือ ความแตกต่างระหว่าง ราคาเสนอซื้อ (bid) และราคาขาย (ask) ของสินทรัพย์นั้นๆ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของโบรกเกอร์ Forex วิธีคำนวณง่าย ๆ นำราคา ask - ราคา bid = ค่าสเปรด เช่น


เมื่อเราเทรดคู่สกุลเงิน EURUSD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ) ราคาตลาด bid อยู่ที่ 1.2000 และราคา ask อยู่ที่ 1.2005 จะได้ค่าสเปรดจะเท่ากับ 0.0005 หรือ 5 จุด (Point)


ซึ่งหากเราทำการซื้อขาย เราจะต้องซื้อที่ราคา ask และขายในราคา bid ซึ่งหมายความว่า เราจะขาดทุน 5 จุด และ 5 จุดนี้ก็คือรายได้จากโบรกเกอร์ การเก็บค่า Spread ส่วนใหญ่จะอยู่ในระเภทบัญชี Standard stp


ดังนั้นเพียงแค่เราเปิดออเดอร์ โบรกเกอร์ ก็ได้กำไรจากส่วนต่างตรงนี้ไปแล้ว ทั้งนี้ราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ จะมีค่าสเปรดไม่เท่ากัน นักลงทุนสามารถดูรายละเอียดราคาผลิตภัณฑ์ได้บนหน้าเว็ปไซต์โบรกเกอร์ Forex


2.ค่าคอมมิชชั่นการเทรด

ค่า Commission จากของโบรกเกอร์ Forex จะมาในรูปแบบ Flat Commission หรือค่าคอมคงที่ เช่น เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 6$ ต่อ การเทรดครบ 1lot และค่า Spread ค่อนข้างต่ำไปจนถึง 0pips ซึ่งเราจะเห็นการเก็บค่าคอมแบบนี้ผ่าน บัญชีเทรด ECN (Electronic Communication Network) หรือเป็นบัญชีที่ดีที่สุดของโบรกเกอร์


โดยทั่วไป โบรกเกอร์ Forex จะมีให้เราเลือกประเภทบัญชีเทรด ซึ่งแต่ละบัญชีก็จะมีการเก็บค่าดำเนินการ ทั้งในแบบค่าสเปรด และคอมมิชชั่น ที่แตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามความถนัดของแต่ละคน


3.ค่าสวอป

ค่าสวอป (Swap) เกิดจากการเปิดออเดอร์ข้ามคืน และจะต้องจ่ายเป็นค่าอัตราดอกเบี้ยของคู่สกุลเงินนั้นๆ นอกจากนี้ ค่า Swap อาจทำให้เราได้กำไรเพิ่มเติมจากการปรับอัตราดอกเบี้ยอีกด้วย


สรุป

โบรกเกอร์ Forex มีบทบาทสำคัญต่อการลงทุนในฟอเร็กซ์ โดยช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดและซื้อขายสินทรัพย์ได้อย่างสะดวกและง่าย ซึ่งหากเราเข้าใจการทำงานของโบรกเกอร์แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดและขาดไม่ได้คือ การเลือกโบรกเกอร์ให้ตรงกับสไตล์การลงทุน และควรคำถึงความมั่นคงและปลอดภัยของโบรกเกอร์เป็นอับแรก


การเลือกโบรกเกอร์ Forex ให้ดี อาจเปรียบได้เหมือนดังการเลือกคู่ครอง หากได้คนรักที่ดี ไม่นอกใจ มีความมั่นคง ค่อยซัพพอร์ต ไม่ว่าเราจะทำอะไรเราก็จะประสบความสำเร็จ การเลือกโบรกเกอร์ก็เช่นกัน


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

นิยามและความสำคัญของอัตราส่วนปัจจุบัน

นิยามและความสำคัญของอัตราส่วนปัจจุบัน

อัตราส่วนปัจจุบันเป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่ใช้วัดความสามารถของบริษัทในการชำระหนี้สินระยะสั้นด้วยสินทรัพย์ระยะสั้น

2025-01-09
หุ้น AI ชั้นนำที่ควรจับตามองในปี 2025: โอกาสและความเสี่ยง

หุ้น AI ชั้นนำที่ควรจับตามองในปี 2025: โอกาสและความเสี่ยง

สำรวจหุ้น AI ชั้นนำที่ควรพิจารณาในปี 2025 โดยพิจารณาโอกาสที่อาจเกิดขึ้นและความเสี่ยง อ่านต่อเพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างรอบรู้

2025-01-08
คำจำกัดความและการประยุกต์ใช้ตัวบ่งชี้ OBV

คำจำกัดความและการประยุกต์ใช้ตัวบ่งชี้ OBV

ตัวบ่งชี้ OBV เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่วัดแรงกดดันซื้อและขายโดยการสะสมปริมาณตามการเคลื่อนไหวของราคา

2025-01-06