ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 เนื่องมาจากความหวังที่รัฐบาลจะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการน้ำมันมากขึ้น
ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองในวันศุกร์ เนื่องจากมีความหวังว่ารัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกอาจเพิ่มการสนับสนุนนโยบายเพื่อฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนในช่วงก่อนหน้า แต่กิจกรรมภาคโรงงานในเศรษฐกิจหลักต่างปิดปี 2024 อย่างไม่โดดเด่น ทำให้แนวโน้มการเติบโตในปีนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น
กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนหดตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยลดลง 7.3% ในเดือนพฤศจิกายนจากปีก่อน ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของ Caixin หดตัวลงมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนธันวาคม
EIA กล่าวว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาดไว้ แต่สต็อกน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ธันวาคม
ราคาก๊าซของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นในไตรมาสที่แล้ว และโมเมนตัมที่แข็งแกร่งยังคงส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2568 เนื่องจากการส่งก๊าซของรัสเซียไปยังยุโรปผ่านยูเครนหยุดลงในวันปีใหม่
ยุโรปไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตการณ์พลังงานหรือการขาดแคลนพลังงานทันที แต่ภูมิภาคนี้ดูเหมือนว่าจะเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดมากกว่า หากต้องการทดแทนก๊าซธรรมชาติที่หายไป
ดัชนีอ้างอิงของสหรัฐฯ ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน แต่ MACD ที่มีทิศทางขาลงบ่งชี้ว่าการขึ้นราคาอาจเสี่ยงต่อการหยุดชะงัก แนวต้านเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3.60 ดอลลาร์
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ