ราคาน้ำมันดิบทรงตัว แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานส่วนเกิน ความหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดิบแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันศุกร์ แต่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็นรายสัปดาห์ ท่ามกลางความหวังที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะกระตุ้นให้จีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกฟื้นตัว
เมื่อวันพฤหัสบดี ธนาคารโลกได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2567 และปีหน้า แต่เตือนว่าความเชื่อมั่นของครัวเรือนและธุรกิจที่ลดลง รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา อาจยังคงมีอยู่ต่อไป
ในตะวันออกกลาง อิสราเอลโจมตีเป้าหมายในเยเมน ซึ่งอ้างว่าควบคุมโดยกลุ่มฮูตี ซึ่งเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านที่ยังคงมีส่วนร่วมอย่างเต็มตัวในสงครามระดับภูมิภาคที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 14 เดือนที่แล้ว
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงเป็นปีที่สองติดต่อกัน แม้ว่าการซื้อขายจะจำกัดอยู่ในกรอบแคบๆ ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมก็ตาม ความกังวลว่าตลาดอาจมีอุปทานเกินในปี 2568 ได้เพิ่มมากขึ้น
EIA รายงานว่าการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอาร์เจนตินาใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีในเดือนตุลาคม โดยมียอดขายที่พุ่งสูงไปยังสหรัฐอเมริกาและอินเดีย
ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของอุปทานที่ไม่ใช่กลุ่ม OPEC+ บางส่วน ขณะที่ท่าทีที่สนับสนุนเชื้อเพลิงฟอสซิล ของ ทรัมป์คาดว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับกิจกรรมการขุดเจาะในอเมริกาเหนือ
ราคาน้ำมันดิบ WTI ผันผวนอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 จุด และไม่น่าจะทะลุผ่านกรอบแคบๆ ได้ก่อนปีหน้า สัญญาณของรูปแบบลิ่มขาขึ้นบ่งชี้ว่าความเสี่ยงมีแนวโน้มไปทางขาลง
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ