ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันพฤหัสบดีในช่วงเช้าของเอเชีย ก่อนที่จะมีรายงานอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญ โดยมีกำไรเพิ่มขึ้น 30% นับตั้งแต่ต้นปี แซงหน้าหุ้นสหรัฐฯ
ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันพฤหัสบดีในช่วงเช้าของเอเชีย เนื่องจากตลาดกำลังสงบลงก่อนที่จะมีรายงานเงินเฟ้อที่สำคัญ โดยราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 30% ในรอบปี แซงหน้าหุ้นสหรัฐฯ ได้อย่างง่ายดาย
ราคาทองร่วงลงมากกว่า 2% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน หลังเฟดลดอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดไว้ แต่ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยจะชะลอความเร็วในการลดลงของต้นทุนการกู้ยืมต่อไป ส่งผลให้ดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น
ธนาคารกลางออกรายงานคาดการณ์ใหม่ว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดฐานสองครั้งในปีหน้าท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น คาดว่าจะใช้แนวทางรอและดูต่อไปหลังจากที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม
ตามข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยกองทุนของรัฐบาลกลาง เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนหน้า ภาวะเงินฝืดลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นในการคาดการณ์การอ่านค่า PCE ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดีด้วย
การนำเข้าทองคำของอินเดียมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนนี้ หลังจากที่มีการซื้อทองคำเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากไม่มีเทศกาลสำคัญใดๆ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นได้
นักลงทุนถอนเงินมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์จากกองทุน ETF ที่ถือทองคำแท่งในช่วงครึ่งแรกของเดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักลงทุนในปีนี้ นโยบายที่สนับสนุนดอลลาร์ของทรัมป์ช่วยกระตุ้นให้มีการไหลออกของเงินดังกล่าว
ราคาทองคำดูมืดมนเมื่อต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อข่าวร้าย เรามองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ราคาจะเคลื่อนไหวเหนือ 2,620 ดอลลาร์ เว้นแต่ดัชนีราคา PCE จะต่ำกว่าที่คาด
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ