ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 1.5% หลังจากที่ร่วงลง 4.8% เมื่อวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนแสดงปฏิกิริยาต่อการที่นายชิเงรุ อิชิบะ ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ที่นิยมนโยบายการเงิน ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 1.5% ในการซื้อขายช่วงเช้า หลังจากที่ร่วงลง 4.8% ในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนแข่งขันกับนายชิเงรุ อิชิบะ ผู้ที่มองว่าตนเองเป็นนักลงทุนในนโยบายการเงินแบบเหยี่ยว ซึ่งชนะการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศ
ตลาดได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง แต่ยังคงตามหลังหุ้นหลักในภูมิภาค หุ้นของอินเดียและออสเตรเลียแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบล่าสุด
นักวิเคราะห์บางคนชี้ให้เห็นว่าตลาดญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็น “การค้าต่อต้านจีน” เพื่อต่อต้านความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ในแง่นั้น การพุ่งสูงอย่างรวดเร็วของตลาดจีนอาจกลายเป็นอุปสรรค
ผลการเลือกตั้งหมายความว่า BOJ "จะไม่เผชิญกับอุปสรรคทางการเมืองใดๆ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป" ตามที่ Sumitomo Mitsui Banking Corporation กล่าว เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นสร้างแรงกดดันต่อผู้ส่งออก
สัญญาณที่บ่งชี้ถึงผลกระทบ คือ การเติบโตของการส่งออกของญี่ปุ่นชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในเดือนสิงหาคม เนื่องจากการส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่คำสั่งซื้อเครื่องจักรหดตัวลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนกรกฎาคม
การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนสิงหาคม โดยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกยิ่งทำให้แนวโน้มของภาคการผลิตของประเทศไม่สดใสมากขึ้น
ดัชนี Nikkei มีความผันผวนสูงในเดือนที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางและความวุ่นวายทางการเมือง โดยแนวรับแนวต้านจะอยู่บริเวณ 40,000 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นจะดำเนินต่อไป
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ที่ให้ไว้ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ