ราคาทองคำทรงตัวที่ระดับต่ำกว่า 2,500 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากมีการเทขายในตลาด คาดว่าจะทรงตัวอยู่ใกล้ระดับนี้จนกว่ารายงาน NFP จะเผยแพร่
ราคาทองคำแท่งทรงตัวในวันพฤหัสบดี แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่า 2,500 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายหุ้นหลังจากเกิดการเทขายครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลให้ตลาดสั่นคลอน คาดว่าราคาทองคำแท่งจะทรงตัวอยู่ที่ระดับนี้จนกว่ารายงาน NFP จะออกมา
โกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงานการวิจัยว่านักลงทุนควร "ซื้อทองคำ" เนื่องจากราคาทองคำยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงเป้าหมายในปี 2025 ไว้ที่ 2,700 ดอลลาร์ พร้อมคำแนะนำ "ซื้อ"
BofA ประเมินว่าทองคำแซงหน้ายูโรแล้วและกลายมาเป็นสินทรัพย์สำรองที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองจากดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และปัญหาเศรษฐกิจทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น
ธนาคารเพื่อการลงทุนปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีน โดยเชื่อว่าปักกิ่งมีความเสี่ยงที่จะต่ำกว่าเป้าหมายอย่างเป็นทางการที่ประมาณ 5% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว UBS เผยว่าคาดการณ์การเติบโตที่ 4.6% ในปี 2024
BofA ปรับลดคาดการณ์การเติบโตจาก 5% เหลือ 4.8% และ TD Securities ปรับลดจาก 5.1% เหลือ 4.7% Citi เตือนว่าเป้าหมายการเติบโตอย่างเป็นทางการอาจตกอยู่ในความเสี่ยงเนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวเป็นเวลานานและความเชื่อมั่นที่อ่อนแอ
ในปัจจุบัน ETF ทองคำที่มีการหนุนหลังทางกายภาพทั่วโลกได้เห็นกระแสเงินไหลเข้าต่อเนื่องเป็นเวลาสามเดือนแล้ว เนื่องจากนักลงทุนตะวันตกแห่เข้ามาซื้อทองคำ โดยกิจกรรมในอเมริกาเหนือแซงหน้ายุโรปและเอเชียในเดือนกรกฎาคม ตามข้อมูลของ WGC
ราคาทองคำฟื้นตัวจากแนวรับที่แข็งแกร่งที่ 2,470 ดอลลาร์อีกครั้ง แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาขึ้นยังไม่ถูกขัดขวาง โดยคาดว่าจะพุ่งขึ้นแตะ 2,510 ดอลลาร์ หากตัวเลขเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นไปตามที่คาด
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ