ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องมาจากเงินไหลเข้าและความหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์เชิงผ่อนปรนของพาวเวลล์ที่แจ็คสัน โฮล
ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่แถวจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในวันจันทร์ เนื่องมาจากกระแสเงินทุนไหลเข้าและความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่าทีผ่อนปรนของพาวเวลล์ที่แสดงออกในแจ็คสันโฮลทำให้มีความหวังว่าราคาจะผ่อนคลายลงอย่างมาก
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงมีอยู่ พลเอกอาวุโสของสหรัฐฯ เริ่มการเยือนตะวันออกกลางโดยไม่แจ้งล่วงหน้าในวันเสาร์ เพื่อหารือถึงแนวทางในการหลีกเลี่ยงไม่ให้ความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้นจนอาจลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงจรวดและโดรนนับร้อยลูกเข้าใส่ประเทศอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลระบุว่าได้โจมตีเลบานอนด้วยเครื่องบินรบประมาณ 100 ลำเพื่อขัดขวางการโจมตีครั้งใหญ่ ซึ่งถือเป็นการปะทะกันครั้งใหญ่ที่สุดในสงครามชายแดน
ตามข้อมูลจาก WGC การถือครอง ETF ทองคำที่มีการหนุนหลังทางกายภาพเพิ่มขึ้นมากกว่า 90 ตันตั้งแต่เดือนพฤษภาคม การไหลเข้าสุทธิเป็นไปในทางบวกใน 7 ใน 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา
การที่ราคาโลหะพุ่งขึ้นจากประมาณ 2,300 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนไปสู่ระดับสูงสุดใหม่นั้นดูเหมือนจะได้รับแรงผลักดันจากผู้ซื้อในสหรัฐและยุโรปที่ต้องการให้มีต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำลงหลังจากความต้องการของจีนลดลง
นักวิเคราะห์ของ Citi ระบุในบันทึกว่า แนวโน้มของนักลงทุนในทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นในช่วง 3 ถึง 6 เดือนข้างหน้า โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งไปที่ 3,000 ดอลลาร์ภายในกลางปี 2568 และราคาทองคำเฉลี่ยในไตรมาสที่ 4 จะอยู่ที่ 2,550 ดอลลาร์
ทองคำแท่งสามารถยืนเหนือระดับ 2,500 ดอลลาร์ได้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงมีอยู่ โดยมีแนวโน้มจะมุ่งไปที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเส้น EMA 50 อาจเป็นฐานสำหรับราคาในกรณีที่ราคาย่อตัวลง
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ที่ให้ไว้ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ