ราคาทองคำคงตัวรอปัจจัยใหม่จากตัวเลขสหรัฐฯ
2024-04-24
สรุป
วันที่ 24 เมษายน 2567 ราคาทองคำทรงตัวบริเวณ 2,320 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเมื่อวานนี้แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์
ราคาทองคำทรงตัวบริเวณ2,320ดอลลาร์/ออนซ์หลังจากเมื่อวานนี้แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์เนื่องจากความกังวลที่ลดลงในภาวะสงครามทางตะวันออกกลางโดยตลาดกำลังรอข้อมูลเศรษฐกิจใหม่เพื่อเพิ่มความชัดเจนในการคาดการณ์จังหวะเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในอนาคตซึ่งอาทิตย์นี้สหรัฐฯจะมีประกาศข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในวันพฤหัสบดีและข้อมูลการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์โดยทั้งคู่จะประกาศช่วง 19.30 เวลาไทย
มุมมองเทคนิคระยะสั้นและระยะกลาง-ราคาทองคำมีการปรับฟื้นตัวหลังทำสถิติต่ำสุดที่ 2290 ก่อนมีการปรับฟื้นตัวสู่บริเวณ 2,330 อีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้
จุดสังเกตหากราคาทองคำยังสามารถรักษาระดับเหนือโซนแนวรับ 2,317 และ 2,300 ต่อไปจะแสดงถึงแนวโน้มการปรับฟื้นตัวจะยังคงมีซึ่งจะมีแนวต้านใกล้เคียงเบื้องต้นคือ 2,335
กรณีที่ราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทะลุและรักษาระดับเหนือกว่า 2,335 จะทำให้ 2,354–2,372 เป็นโซนแนวต้านของโครงสร้างเทรนด์ขาลงระยะสั้นที่น่าจับตามองทันที
ในทางกลับกันกรณีที่ราคาปรับตัวลดลงและต่ำกว่า 2,300 อีกครั้งจะทำให้ 2,280 เป็นแนวรับใกล้เคียงถัดไป
แนวต้าน 2,335–2,354–2,372
แนวรับ 2,317–2,300–2,280
คำเตือนความเสี่ยง:ข้อมูลในการนำเสนอนี้มีเจตนาเพื่อการศึกษาเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนซึ่งความเสี่ยงของการซื้อขายForexมีจำนวนมากคุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบและประเมินความเสี่ยงให้เหมาะสมสถานการณ์ทางการเงินของคุณบริษัทและผู้แบ่งปันความรู้ในข้อความหรือโพสต์นี้จะไม่รับผิดชอบใดๆกรณีเกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากการซื้อขาย
พาวเวลล์ไม่ได้ฆ่าตลาดกระทิง
หุ้นสหรัฐฯ ร่วงลง โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นักกลยุทธ์หลายคนมองว่าหุ้นของ Tesla อาจปรับตัวขึ้นได้อีก ขณะที่หุ้นของ Tesla พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่
2024-12-19
ทองคำเลียแผลหลังจากเฟดเปลี่ยนท่าทีเป็นเหยี่ยว
ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันพฤหัสบดีในช่วงเช้าของเอเชีย ก่อนที่จะมีรายงานอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญ โดยมีกำไรเพิ่มขึ้น 30% นับตั้งแต่ต้นปี แซงหน้าหุ้นสหรัฐฯ
2024-12-19
FOMC - อัตราเงินเฟ้อเกินเป้าหมาย 2%
ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี โดยอัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่า 2% ซึ่งจะทำให้การลดอัตราดอกเบี้ยมีความเหมาะสมมากขึ้น และส่งผลต่อการตัดสินใจในปีหน้า
2024-12-18
