เรียนรู้วิธีที่ ZigZag Indicator ช่วยกรองสัญญาณรบกวน ระบุจุดแกว่งของราคา และปรับปรุงจุดเข้าซื้อ-ขาย พร้อมการตั้งค่า กลยุทธ์ และการควบคุมความเสี่ยง
ZigZag Indicator เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มเทรดเดอร์ที่นิยมกราฟเรียบง่าย ไม่รกสายตา โดยมันจะละเว้นการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กและไม่สำคัญ แล้วเชื่อมเฉพาะจุดสูงสุดและต่ำสุดที่มีความหมายจริง ๆ ทำให้สามารถมองเห็นแนวโน้มการกลับตัว และรูปแบบราคาต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ผลการกรองนี้ช่วยให้เทรดเดอร์โฟกัสกับโครงสร้างภาพรวมของตลาด โดยไม่ถูกรบกวนจากความผันผวนเล็ก ๆ ทุกจุด
อย่างไรก็ตาม ZigZag ไม่ใช่ลูกแก้วพยากรณ์ราคา แต่เป็นเครื่องมือสำหรับการทำแผนที่ราคา ใช้ได้ดีที่สุดควบคู่กับวิธียืนยันสัญญาณอื่น ๆ และการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เรามาทำความเข้าใจวิธีการทำงาน การตั้งค่า และวิธีใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพในการเทรดจริงกันดีกว่า
โดยพื้นฐานแล้ว ZigZag Indicator ทำหน้าที่ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาเรียบง่ายขึ้น มันเน้นเฉพาะจุดแกว่งหลัก กรองสัญญาณรบกวน และช่วยให้อ่านโครงสร้างแนวโน้มได้ง่ายขึ้น ความชัดเจนนี้ช่วยในการ:
ระบุแนวโน้มหลักของตลาด
ตรวจจับรูปแบบกราฟ เช่น Double Top/Bottom หรือ Head and Shoulders
กำหนดแนวรับ-แนวต้านจากจุดสูงสุดและต่ำสุดในอดีต
ทบทวนพฤติกรรมราคาที่ผ่านมาโดยไม่ถูกรบกวนจากการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ
ZigZag ต่างจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือออสซิลเลเตอร์ตรงที่ไม่สามารถทำนายราคาได้ จุดแกว่งล่าสุดยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้จนกว่าจะยืนยัน ดังนั้นเทรดเดอร์ควรระมัดระวังกับช่วงขา(leg)สุดท้าย
ประสิทธิภาพของอินดิเคเตอร์ขึ้นอยู่กับ 3 การตั้งค่า:
ความลึก – จำนวนแท่งเทียนขั้นต่ำก่อนยืนยันจุด Pivot ยิ่งค่า Depth สูงจุด Pivot จะน้อยและสัญญาณรบกวนน้อยลง
ค่าเบี่ยงเบน – การเปลี่ยนแปลงราคาขั้นต่ำเป็นเปอร์เซ็นต์ที่จำเป็นต่อการสร้างขาใหม่ ค่าเบี่ยงเบนเพียงเล็กน้อยจะสร้างเส้นที่มากขึ้น ส่วนค่าเบี่ยงเบนที่มากขึ้นจะเน้นเฉพาะการเคลื่อนไหวที่ใหญ่ขึ้นเท่านั้น
Backstep – จำนวนแท่งเทียนขั้นต่ำระหว่าง Pivot 2 จุด เพื่อป้องกันการเรียงตัวใกล้กันเกินไป
ค่าตั้งต้นทั่วไป:
การเทรดรายวัน: ความลึก 12–20 | ความเบี่ยงเบน 3–5% | Backstep 3–5
การเทรดแบบสวิง: ความลึก 24–48 | ความเบี่ยงเบน 5–10% | Backstep 5–8
สำหรับสินทรัพย์ที่ผันผวนสูง ควรเพิ่ม Backstep เพื่อลดสัญญาณหลอก
บน MT4 หรือ MT5:
เปิดกราฟเทรด
ไปที่ Insert → Indicators → Custom → ZigZag
ปรับความลึก ความเบี่ยงเบน และ Backstep ให้เหมาะกับตลาดและกรอบเวลาของคุณ
บันทึกเทมเพลตเพื่อใช้งานซ้ำในกราฟอื่น
เส้นตรงของ ZigZag ช่วยให้สังเกต:
ทิศทางแนวโน้ม: Higher Highs และ Higher Lows = ขาขึ้น ส่วนตรงกันข้ามบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง
การย่อตัวและแรงกระตุ้น: เปรียบเทียบขนาดของขา การเคลื่อนไหวแรงพร้อมการพักตัวตื้นแสดงถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
ระดับสำคัญ: จุดสูงสุด/ต่ำสุดที่ผ่านมาใช้กำหนด Stop Loss และเป้าหมายทำกำไร
ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ ZigZag บนกรอบเวลาสูงเพื่อกำหนดแนวโน้มตลาด และ ZigZag บนกรอบเวลาต่ำเพื่อปรับแต่งจุดเข้าซื้อ-ขาย
1. แนวโน้มพร้อมกลับตัว (Trend Pullback Continuation)
ขั้นแรก ให้ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงที่แข็งแกร่งผ่านลำดับการแกว่งตัว รอให้เกิดขาปรับฐานขึ้น จากนั้นมองหาสัญญาณโมเมนตัม เช่น RSI ที่กลับตัวกลับเป็นแนวโน้มขาลง ก่อนที่จะเข้าเทรดในทิศทางนั้น จุดตัดขาดทุนควรอยู่ไกลกว่าช่วงแกว่งตัวปรับฐานครั้งล่าสุด โดยมีเป้าหมายทำกำไรอยู่ใกล้จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของขาก่อนหน้า
2. การกลับตัวที่โครงสร้างราคา (Reversal at Structure)
ทำเครื่องหมายจุดแกว่งตัวที่สำคัญในอดีตและมองหาราคาเพื่อทดสอบจุดเหล่านี้ หากจุดแกว่งตัวไม่ขยายออกไปและแสดงสัญญาณ divergence หรือการปฏิเสธอย่างรุนแรง ให้พิจารณาการเทรดแบบกลับตัว เข้าเทรดเมื่อราคาทะลุในทิศทางตรงกันข้ามโดยตั้งจุดตัดขาดทุนหลังจากจุดแกว่งตัวที่ล้มเหลว
3. ระดับ Fibonacci ร่วมกับ ZigZag
เมื่อมีสองจุด ZigZag กำหนดขาหนึ่งแล้วให้นำ Fibonacci retracement และ projection มาช่วยระบุระดับการพักตัวและเป้าหมายทำกำไร
การควบคุมความเสี่ยงที่ดีหมายถึง:
การวางจุดตัดขาดทุนเหนือจุด Pivot สุดท้ายที่ได้รับการยืนยัน
การกำหนดขนาดตำแหน่งเพื่อให้ความเสี่ยงต่อการซื้อขายยังคงสม่ำเสมอ
กำหนดขนาดล็อตให้ความเสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้งคงที่
ปรับการตั้งค่าเมื่อเจอสภาวะความผันผวนสูง
หลีกเลี่ยงการเทรดก่อนข่าวเศรษฐกิจสำคัญ
การวางตัดขาดทุนและเป้าหมายตามโครงสร้างจุดแกว่ง ช่วยให้การเทรดสอดคล้องกับพฤติกรรมจริงของตลาด
เทรดเดอร์บางรายใช้ ZigZag เป็นตัวกระตุ้นการเข้าเทรดโดยตรงอย่างไม่ถูกต้อง บางรายปรับแต่งการตั้งค่าสำหรับผลย้อนหลังมากเกินไป แต่กลับล้มเหลวในสภาวะตลาด เปลี่ยนแปลงข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดคือ การเทรดจากขา ZigZag ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้น ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ
ZigZag มีประโยชน์อย่างยิ่งหลังจากเกิดการเคลื่อนไหวที่ผันผวน สำหรับการทบทวนและบันทึกการเทรดที่ผ่านมา และสำหรับการจดจำรูปแบบ ZigZag ทำงานได้ดีที่สุดในช่วงที่มีแนวโน้มและบนกราฟที่ราคาเคลื่อนไหวไม่ผันผวนเกินไป
ใช้ ZigZag เป็นแผนที่ ไม่ใช่สัญญาณเข้าซื้อ-ขาย ร่วมกับการยืนยันอื่น ๆ เช่น price action หรือ indicators โมเมนตัม จะช่วยปรับปรุงการคัดกรองและการจับจังหวะการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เรียนรู้วิธีดาวน์โหลด ติดตั้ง และเริ่มการซื้อขายบน MetaTrader 5 (MT5) ด้วยคู่มือทีละขั้นตอนที่เป็นมิตรต่อผู้เริ่มต้นนี้
2025-08-15ค้นพบกลยุทธ์การซื้อขายอันเป็นตำนานของทาคาชิ โคเทกาวะ ที่เปลี่ยนการลงทุนเล็กๆ ให้กลายเป็นเงินล้าน รับข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำแนวทางของเขาไปปรับใช้เพื่อความสำเร็จในยุคปัจจุบัน
2025-08-15เรียนรู้วิธีใช้ Analyst Views ของ Trading Central บนเว็บและ MT4/MT5 เพื่อเข้าถึงกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ สัญญาณ และข้อมูลเชิงลึกของตลาด
2025-08-15