OTM คืออะไรในโลกของออปชัน เทรดเดอร์ต้องรู้!

2025-07-31
สรุป

ทำความเข้าใจความหมายของ OTM ในการเทรดออปชัน พร้อมตัวอย่างจริง เรียนรู้วิธีระบุออปชัน OTM และสัญญาณที่มันบ่งบอกในตลาด

ในการเทรดออปชันคำว่า OTM หรือ "Out‑of‑the‑Money" มีบทบาทสำคัญในการกำหนดศักยภาพของออปชันในแต่ละช่วงเวลา


แม้เทรดเดอร์มักให้ความสนใจกับออปชันที่อยู่ในเงิน (In‑the‑Money: ITM) หรือที่ราคาตลาด (At‑the‑Money: ATM) แต่การเข้าใจ OTM ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มองหาความได้เปรียบจากเลเวอเรจสูง ต้นทุนต่ำ หรือโอกาสเก็งกำไรที่ให้ผลตอบแทนมาก


ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้ว่า OTM คืออะไรทั้งในฝั่ง Call (ซื้อ) และ Put (ขาย) มีผลต่อการกำหนดราคาออปชันอย่างไร และควรนำมาใช้ในกลยุทธ์การเทรดของคุณในสถานการณ์ใดบ้าง


OTM คืออะไร?

OTM คืออะไร

OTM ย่อมาจาก “Out‑of‑the‑Money” หรือ “อยู่นอกเงิน” หมายถึงออปชันที่ไม่มีมูลค่าแท้จริง (Intrinsic Value) โดยเป็นแนวคิดหลักในเรื่องของ “สถานะของออปชัน” (Moneyness) ซึ่งแสดงความสัมพันธ์ระหว่างราคาที่ใช้สิทธิ (Strike Price) กับราคาตลาดปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง


ออปชัน Call ถือว่าอยู่ในสถานะ OTM เมื่อราคาที่ใช้สิทธิสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ส่วนออปชัน Put ถือว่าอยู่ในสถานะ OTM เมื่อราคาที่ใช้สิทธิต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน


การใช้สิทธิในออปชัน OTM ณ เวลานั้นจะไม่ก่อให้เกิดกำไร เพราะมูลค่าของออปชันประเภทนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เช่น มูลค่าของเวลา (Time Value) และความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility)


OTM ส่งผลต่อราคาของออปชันอย่างไร?


ออปชันที่อยู่ในสถานะ OTM มักมีราคาถูกกว่าออปชัน ATM หรือ ITM เนื่องจากไม่มีมูลค่าแท้จริง ผู้ซื้อจึงจ่ายเฉพาะมูลค่าภายนอกเท่านั้นซึ่งประกอบด้วย:


  • มูลค่าของเวลา — ยิ่งระยะเวลาหมดอายุนานเท่าไร โอกาสที่ราคาจะเคลื่อนไหวเป็นไปตามที่ต้องการก็ยิ่งมากขึ้น

  • ความผันผวนโดยนัย — ราคาของออปชัน OTM จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อสินทรัพย์อ้างอิงเกิดการเคลื่อนไหวแรง


ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ OTM จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นการเก็งกำไร เพราะใช้เงินลงทุนต่ำแต่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง อย่างไรก็ตาม ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะหมดอายุโดยไร้มูลค่า หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงไม่เคลื่อนไหวเกินกว่าราคาที่ใช้สิทธิ


ตัวอย่างของออปชัน Call และ Put ที่อยู่ในสถานะ OTM


  • Call OTM: หากหุ้น Apple ซื้อขายอยู่ที่ราคา $145 แต่ออปชัน Call มีราคาที่ใช้สิทธิ $150 ถือว่าเป็น OTM เพราะการใช้สิทธิจะทำให้เสียเงินมากกว่าการซื้อหุ้นในตลาดโดยตรง

  • Put OTM: หากหุ้น Apple อยู่ที่ราคา $155 แต่ออปชัน Put มีราคาที่ใช้สิทธิ $150 ก็ถือว่าเป็น OTM เพราะการใช้สิทธิไม่ให้ข้อได้เปรียบใดๆ


เทรดเดอร์จำนวนมากเลือกใช้ออปชัน OTM เพราะเบี้ยประกันต่ำและมีโอกาสทำกำไรในเปอร์เซ็นต์ที่สูง แม้จะต้องยอมรับความเสี่ยงในการขาดทุนเต็มจำนวนก็ตาม


OTM แตกต่างจาก ITM และ ATM อย่างไร?

OTM vs ITM vs ATM

เพื่อเข้าใจ OTM อย่างครบถ้วน ควรเปรียบเทียบกับสถานะอื่นของออปชัน ดังนี้


  • ITM (In-the-Money): ออปชัน Call มีมูลค่าแท้จริงเมื่อราคาที่ใช้สิทธิต่ำกว่าราคาตลาด ส่วนออปชัน Put มีมูลค่าแท้จริงเมื่อราคาที่ใช้สิทธิสูงกว่าราคาตลาด

  • ATM (At-the-Money): ราคาที่ใช้สิทธิตรงกับราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง ทำให้ออปชันไม่มีมูลค่าแท้จริง หรือขาดทุนทันที


ในทางตรงกันข้าม OTM (Out‑of‑the‑Money) ไม่มีมูลค่าแท้จริงเลย โดยมูลค่าทั้งหมดของออปชันเป็นมูลค่าของเวลาเท่านั้น เนื่องจากการใช้สิทธิของออปชัน OTM จะไม่ให้กำไรทันที


เทรดเดอร์ใช้ OTM ในกลยุทธ์อย่างไร?

การเทรดออปชั่น OTM


เก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวราคาครั้งใหญ่

เทรดเดอร์ที่คาดหวังราคาจะเคลื่อนไหวแรง อาจซื้อออปชัน Call OTM (มุมมองขาขึ้น) หรือ Put OTM (มุมมองขาลง) โดยมีต้นทุนต่ำ และหากราคาทะลุจุดใช้สิทธิอย่างมีนัยสำคัญ จะได้กำไรเป็นเปอร์เซ็นต์สูงมาก


กลยุทธ์ Risk Reversal และ Spread

Risk reversal คือการขาย Put OTM พร้อมกับซื้อ Call OTM สร้างสถานะ Long สังเคราะห์โดยใช้เบี้ยประกันจาก Put มาช่วยชำระต้นทุนกลยุทธ์ Butterfly หรือ Spread ต่าง ๆ ก็ใช้ราคาใช้สิทธิ OTM เพื่อจำกัดความเสี่ยงและลดต้นทุน


ความเสี่ยงชัดเจนต้นทุนต่ำ

ออปชัน OTM ต้องใช้เงินลงทุนต่ำและกำหนดขาดทุนสูงสุดได้ชัดเจน คือเบี้ยประกันที่จ่ายไป


เล่นกับความผันผวน (Volatility Plays)

หลังจากเกิดความผันผวนสูง ราคาของออปชัน OTM มักปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ วทำให้เกิดโอกาสในการเทรด แม้ราคาสินทรัพย์อ้างอิงยังไม่เคลื่อนไหวมากนัก


ประโยชน์ vs ความเสี่ยง

ประโยชน์ ความเสี่ยง
ค่าเบี้ยประกันที่ต่ำกว่า – ราคาถูกกว่า ATM หรือ ITM ความเสี่ยงหมดอายุไร้มูลค่า – ส่วนใหญ่ออปชัน OTM หมดอายุโดยไม่มีค่า
เลเวอเรจสูง – การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ อาจให้ผลตอบแทนมาก การเสื่อมสลายตามเวลา (Theta) – มูลค่าจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็วเมื่อใกล้หมดอายุ
กำหนดความเสี่ยงชัดเจน – ขาดทุนสูงสุดคือเบี้ยที่จ่าย โอกาสทำกำไรต่ำ – ต้องการการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจน
เหมาะสำหรับการเก็งกำไร – ใช้เทรดแนวโน้มใหญ่ ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง – ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาและความผันผวนเท่านั้น
ใช้งานหลากหลาย – ประยุกต์กับกลยุทธ์ต่างๆได้ ความอ่อนไหวต่อความผันผวน – มีแนวโน้มที่จะเกิดการแกว่งตัวของราคาอย่างรวดเร็วโดยอิงจากความผันผวนโดยนัย


แนวทางปฏิบัติที่ควรจดจำ


  • เข้าใจเรื่องการเสื่อมค่าของเวลา (Time Decay) และเลือกวันหมดอายุที่เหมาะสมเพื่อให้มีเวลาพอสำหรับการเปลี่ยนแปลงราคา

  • ติดตามค่าเดลต้า (Delta) และวิธีที่มันเปลี่ยนแปลงเมื่อออปชันเข้าใกล้สถานะ ATM

  • หลีกเลี่ยงออปชัน OTM ที่อยู่ลึกมาก (Deep OTM) เว้นแต่จะมีความผันผวนสูงหรือทิศทางราคาที่ชัดเจน

  • ใช้การกำหนดขนาดตำแหน่งเพื่อลดความเสี่ยง และปฏิบัติต่อการเทรด OTM ราวกับเป็นการเดิมพันที่มีความเสี่ยงสูง

  • พิจารณาสภาพคล่องและส่วนต่างราคาซื้อขาย (Bid-Ask Spread) โดยเฉพาะในราคาใช้สิทธิที่ห่างจากราคาตลาดซึ่งมีความสนใจเปิดสถานะน้อย

  • ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น อันดับหรือเปอร์เซ็นไทล์ของความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility Rank/Percentile) เพื่อประเมินว่าออปชัน OTM มีราคาถูกหรือแพง


คำถามที่พบบ่อย


1. OTM ในการเทรดออปชันหมายถึงอะไร?

OTM ย่อมาจาก Out-of-the-Money หมายถึงออปชันที่ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง ออปชัน Call จะเป็น OTM เมื่อราคาใช้สิทธิสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน และออปชัน Put จะเป็น OTM เมื่อราคาใช้สิทธิต่ำกว่าราคาตลาด


2. ออปชัน OTM มีความเสี่ยงมากกว่า ITM หรือ ATM หรือไม่?

ใช่ ออปชัน OTM มักมีความเสี่ยงสูงกว่า เพราะมีโอกาสน้อยที่จะหมดอายุในสถานะทำกำไร หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงไม่เคลื่อนไหวตามที่คาด ออปชันอาจหมดอายุโดยไม่มีค่า ส่งผลให้สูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด


3. ควรพิจารณาซื้อออปชัน OTM เมื่อไหร่?

ควรพิจารณาเมื่อคาดว่าราคาจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เช่น เหตุการณ์รายงาน ผลประกอบการข่าวสำคัญ หรือข้อมูลเศรษฐกิจเหมาะสำหรับการเก็งกำไรที่มีต้นทุนน้อยและความเสี่ยงจำกัด


สรุป


การเทรดออปชัน OTM ต้องอาศัยความแม่นยำและความอดทน แม้ว่าจะไม่มีมูลค่าแท้จริงและเสี่ยงต่อการเสื่อมค่าของเวลา แต่ก็เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์ลงทุนด้วยต้นทุนต่ำและใช้เลเวอเรจสูงเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่


หากใช้กลยุทธ์อย่างรอบคอบ ออปชัน OTM สามารถสร้างผลตอบแทนที่สำคัญได้ โดยที่เทรดเดอร์ต้องควบคุมความคาดหวังจำกัดการขาดทุนและเลือกกลยุทธ์อย่างมีกลยุทธ์


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ได้ผลจริง ตัดเสียงรบกวนทิ้ง!

กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ได้ผลจริง ตัดเสียงรบกวนทิ้ง!

ตัดเสียงรบกวนด้วยกลยุทธ์การเทรด Forex ที่พิสูจน์แล้ว ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค อินดิเคเตอร์ที่สำคัญ รวมถึงการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญของ EBC คลาสเรียนออนไลน์ และสัญญาณเตือนเทรดที่แม่นยำ

2025-08-07
รู้จัก แนวรับ แนวต้าน คืออะไร พร้อมกลยุทธ์เทรด Forex ที่ได้ผลจริง

รู้จัก แนวรับ แนวต้าน คืออะไร พร้อมกลยุทธ์เทรด Forex ที่ได้ผลจริง

เปิดข้อมูลแนวรับ แนวต้าน คืออะไร เจาะลึกหัวใจของการวิเคราะห์กราฟ พร้อมกลยุทธ์ใช้เทรดจริงที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ย ด้วยเทคนิคพื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนเริ่มเทรดทุกตลาด

2025-08-07
ราคาน้ำมันดิบวันนี้พุ่ง รับแรงหนุนจากความต้องการโลก

ราคาน้ำมันดิบวันนี้พุ่ง รับแรงหนุนจากความต้องการโลก

ติดตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์และ WTI แบบเรียลไทม์ พร้อมปัจจัยขับเคลื่อนตลาด การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ และความเคลื่อนไหววันนี้มีความหมายอย่างไรต่อผู้บริโภคและเศรษฐกิจโลก

2025-08-07