สรุป
ราคาหุ้นของ Google พุ่งขึ้นจากผลประกอบการ Q2 ที่แข็งแกร่ง โดยรายได้จากคลาวด์เพิ่มขึ้น 32% กำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และวอลล์สตรีทปรับเพิ่มเป้าหมายราคา
บริษัท Alphabet Inc. ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่โดดเด่นอีกครั้ง สร้างความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุน และทำให้หลายธนาคารวอลล์สตรีทปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้น ราคาหุ้น Google (GOOG) พุ่งแรงในการซื้อขายนอกเวลาหลังการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 สะท้อนถึงแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งทั้งในธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ที่กำลังเติบโต
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 Alphabet ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 หลังปิดตลาดสหรัฐฯ ซึ่งผลลัพธ์ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก สะท้อนถึงศักยภาพในการแข่งขันของบริษัท ท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในตลาด AI และคลาวด์คอมพิวติ้ง
บริษัทรายงานรายได้รวมอยู่ที่ 96.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่กำไรต่อหุ้น (EPS) พุ่งขึ้น 22% แตะที่ 2.31 ดอลลาร์ ซึ่งทั้งสองตัวเลขล้วนสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด
จุดเด่นของรายงานคือธุรกิจคลาวด์ของ Google ซึ่งมีรายได้พุ่งแตะ 13.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อนหน้า ตอกย้ำความแข็งแกร่งของ Google Cloud ในตลาดเทคโนโลยีองค์กร จากปัจจัยหนุนอย่าง AI, แนวโน้ม Digital Transformation และความต้องการจากลูกค้ารายใหญ่ที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ธุรกิจหลักของ Google อย่างบริการค้นหา (Search) ทำรายได้ 54.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าประมาณการเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวก ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งที่ใช้ AI อย่าง ChatGPT และ Perplexity
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญในรายงานผลประกอบการคือการเพิ่มงบลงทุน (Capital Expenditure) อย่างทะเยอทะยานของ Alphabet โดยบริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการใช้จ่ายตลอดปี 2025 ขึ้น 13% แตะ 85,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 52,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 ตามคำกล่าวของประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (CFO) คุณ Anat Ashkenazi การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2026 ซึ่งสะท้อนถึงแผนการขยายตัวต่อเนื่องในด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล (Data Infrastructure), ขีดความสามารถด้าน AI และการพัฒนาผลิตภัณฑ์
การลงทุนเชิงรุกในระดับนี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่า Alphabet ตั้งใจรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด AI และบริการคลาวด์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ต้นทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและการวิจัยพัฒนา (R&D) อย่างมหาศาลเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
หลังการประกาศผลประกอบการ ราคาหุ้น Google พุ่งขึ้น 3% มาอยู่ที่ 196.5 ดอลลาร์ ณ เวลาที่รายงาน สะท้อนการตอบรับเชิงบวกจากนักลงทุน ขณะเดียวกัน ธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่หลายแห่งได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้น Alphabet อย่างต่อเนื่อง
JPMorgan ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 200 ดอลลาร์เป็น 232 ดอลลาร์ โดยอ้างถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตในอนาคต
Jefferies เพิ่มเป้าหมายจาก 210 ดอลลาร์เป็น 230 ดอลลาร์ เน้นย้ำถึงโมเมนตัมทั้งในการค้นหาและคลาวด์
Oppenheimer ดำเนินการตามโดยปรับคาดการณ์ราคาจาก 220 ดอลลาร์เป็น 235 ดอลลาร์
การปรับราคาเป้าหมายดังกล่าวบ่งชี้ถึงอัพไซด์ที่อาจมากกว่า 20% จากระดับราคาปัจจุบัน ซึ่งยิ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นของตลาดในแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในระยะกลางถึงยาว
แม้จะมีผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ แต่ Alphabet ก็ยังมีข้อท้าทายอยู่บ้าง การเกิดขึ้นของเครื่องมือค้นหาและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ใช้ AI โดยเฉพาะ ChatGPT ของ OpenAI และระบบนิเวศที่กำลังพัฒนาของมัน ถือเป็นภัยคุกคามระยะยาวต่อความเป็นผู้นำของ Google ในการค้นหาและดึงข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ไตรมาสปัจจุบันพิสูจน์ให้เห็นว่ารูปแบบธุรกิจแบบดั้งเดิมของ Google ยังคงแข็งแกร่ง แม้ภูมิทัศน์ดิจิทัลจะเปลี่ยนแปลงไปก็ตาม ด้วยการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ไหลเข้าสู่เทคโนโลยี AI และคลาวด์ Alphabet จึงดูเหมือนจะอยู่ในสถานะที่เหมาะสมที่จะปรับตัวและเป็นผู้นำในนวัตกรรมทางเทคโนโลยีระลอกต่อไป
ผลประกอบการไตรมาส 2 ตอกย้ำสถานะของ Alphabet ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี ราคาหุ้น Google มีแรงส่งเชิงบวกจากรายได้ธุรกิจคลาวด์ที่เติบโตโดดเด่น การเติบโตอย่างมั่นคงของธุรกิจค้นหา และการจัดสรรเงินลงทุนเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ
แม้การแข่งขันในด้าน AI จะเป็นความเสี่ยงที่แท้จริง แต่ความมุ่งมั่นของ Alphabet ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความได้เปรียบระยะยาว ด้วยมุมมองเชิงบวกจากนักวิเคราะห์หลายรายและตัวเลขทางการเงินที่แข็งแกร่ง แนวโน้มราคาหุ้น Google ยังคง “เป็นขาขึ้น” อย่างชัดเจนในระยะสั้นถึงกลางเทอม
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
การลงทุนมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ของ Apple ในสหรัฐฯ ได้รับการยกเว้นภาษี ส่งผลให้ราคาหุ้นของ AAPL พุ่งขึ้นกว่า 7% เนื่องจากตลาดต่างพากันสนับสนุนการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของบริษัท
2025-08-07
การนำเข้าทองแดงของจีนแสดงสัญญาณผสมในเดือนกรกฎาคม 2025 การเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยกระตุ้นการเติบโตของสินค้าโภคภัณฑ์ท่ามกลางข่าวจากธนาคารกลางสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของตลาดสกุลเงินหรือไม่?
2025-08-07
ดัชนี Nikkei 225 พุ่งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีหลังจากคำมั่นของทรัมป์ในการเรียกเก็บภาษี 100% กับการนำเข้าชิปเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่ายักษ์ใหญ่ชิปจากเกาหลีใต้บางรายอาจได้รับการยกเว้น
2025-08-07
