เงินเฟ้อจากภาษีศุลกากรกลับมาร้อนแรงในเดือนมิถุนายน: ดัชนี CPI พุ่งแตะ 2.7% ขณะที่ Fed ยังคงยืนหยัดนโยบายเดิม

2025-07-17
สรุป

กลุ่ม EBC Financial คาดการณ์ว่าตลาดจะมีความผันผวนสูงขึ้นและนักลงทุนจะระมัดระวังมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้

ราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนในเดือนมิถุนายน เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ สะท้อนการกลับมาของแรงกดดันเงินเฟ้อหลังจากช่วงหลายเดือนที่มีการผ่อนคลาย ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีศุลกากรกำลังเริ่มส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเงินเฟ้อโดยรวม สร้างความท้าทายให้กับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก่อนการตัดสินใจในปลายเดือนกรกฎาคมนี้

Tariff-Driven Inflation Reawakens in June: CPI Hits 2.7% as Fed Holds the Line

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.3% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ที่ไม่รวมราคาสินค้าอาหารและพลังงาน ขยายตัว 2.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่ยังสะท้อนสภาพแวดล้อมเงินเฟ้อที่ค่อยเป็นค่อยไป


สัญญาณเริ่มต้นของผลกระทบจากภาษีศุลกากร ทำตลาดต้องปรับมุมมองใหม่

แม้ว่าเงินเฟ้อจะผ่อนคลายในช่วงต้นปี 2025 แต่อัตราเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายนสะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับแรงหนุนจากมาตรการการค้าของสหรัฐฯ ชุดใหม่ ซึ่งภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากกว่า 20 ประเทศที่จะมีผลเต็มรูปแบบในเดือนสิงหาคมนี้ ทำให้นักวิเคราะห์เตือนว่าการส่งผ่านต้นทุนไปยังราคาสินค้ากำลังทวีความรุนแรงขึ้น


“สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เราเห็นคือสัญญาณแรกของภาษีศุลกากรที่ส่งผลต่อแรงกดดันเงินเฟ้ออย่างแท้จริง” เดวิด แบร์เร็ต ซีอีโอของ EBC Financial Group (UK) Ltd. กล่าว “แม้ตัวเลขยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่เทรดเดอร์ที่มองการณ์ไกลควรถามตัวเองว่า ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น — ไม่ใช่แค่กับข้อมูลเศรษฐกิจ แต่รวมถึงนโยบายของเฟดและการไหลของเงินทุนด้วย”


การประเมินของนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำระบุว่า ประมาณหนึ่งในสามของการเพิ่มขึ้น CPI เดือนมิถุนายน อาจเกี่ยวข้องกับผลกระทบจากภาษีศุลกากร และคาดว่าผลกระทบนี้จะทวีความรุนแรงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะเมื่อบริษัทเริ่มลดสต็อกสินค้าก่อนการขึ้นภาษีและปรับโมเดลการตั้งราคาสินค้าใหม่


คาดการณ์เฟดจะพักการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมท่ามกลางสัญญาณที่ขัดแย้งกัน

แม้เงินเฟ้อภาพรวมจะปรับตัวขึ้น แต่ตัวชี้วัดเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้เพียงพอ ทำให้เฟดยังคงระมัดระวัง ตลาดปัจจุบันประเมินความน่าจะเป็นสูงถึง 97% ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25%–4.50% ในการประชุมวันที่ 29–30 กรกฎาคมนี้


“เงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นวิ่งหนีไปไกล” คุณแบร์เร็ตกล่าว “เฟดยังไม่มีแรงจูงใจที่จะเร่งปรับนโยบาย เราคาดว่าจะอยู่ในสถานะรอดูสถานการณ์ในเดือนกรกฎาคม แต่หากข้อมูล CPI และตัวเลขค่าจ้างกลับมาร้อนแรงอีกในเดือนสิงหาคม บทสนทนาอาจเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากการอดทนเป็นการดำเนินการเชิงรุก”


แม้ว่าตัวเลข CPI จะเป็นจุดสนใจหลักของตลาด แต่ดัชนีเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญมากกว่าอย่าง Core Personal Consumption Expenditures (PCE) Price Index นั้นให้ภาพรวมที่ครอบคลุมพฤติกรรมผู้บริโภคมากกว่า โดยข้อมูล PCE เดือนมิถุนายนที่จะออกมาในเดือนนี้น่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายของเฟดครั้งต่อไป


ความเชื่อมั่นนักลงทุนแยกขั้ว: สินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่โหมดรอดูสถานการณ์

ปฏิกิริยาตลาดต่อรายงานเงินเฟ้อมีความหลากหลาย ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ขณะที่ตลาดหุ้นยังคงระมัดระวังท่ามกลางความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ย


“นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาของการขายสินทรัพย์เสี่ยง (Risk-off) แต่ก็ยังไม่ใช่ช่วงที่นักลงทุนพร้อมเสี่ยงเต็มที่ (Risk-on)” คุณแบร์เร็ตอธิบาย “สำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุน นี่คือช่วงเวลาที่กลยุทธ์ภาพรวมเศรษฐกิจ (Macro Strategy) มีความสำคัญที่สุด — คู่เงิน, ผลิตภัณฑ์อัตราดอกเบี้ย และกลุ่มที่ไวต่อเงินเฟ้อจะมีความผันผวนสองทางมากขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้”


เขายังเสริมว่า “การเร่งตัวของเงินเฟ้ออีกครั้ง โดยเฉพาะจากภาษีศุลกากร ได้นำความผันผวนใหม่เข้าสู่ตลาดทองคำและตลาดเงินสกุลต่าง ๆ เทรดเดอร์ควรเตรียมรับมือกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้น และทบทวนการจัดพอร์ตลงทุนโดยรอบตัวกระตุ้นเศรษฐกิจหลัก ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น”


แนวโน้ม: ความผันผวนของเงินเฟ้อจะกำหนดทิศทางการลงทุนในไตรมาส 3

ด้วยผลกระทบจากภาษีศุลกากรที่ยังคงดำเนินต่อไป และความต้องการผู้บริโภคที่แสดงสัญญาณอ่อนแอ ทำให้ความเชื่อมั่นตลาดมีแนวโน้มตอบสนองอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนข้างหน้า


“ไตรมาส 3 จะไม่ถูกกำหนดแค่ตัวเลขเงินเฟ้อที่ประกาศออกมาเท่านั้น แต่จะขึ้นอยู่กับการตีความข้อมูลเหล่านั้น” คุณแบร์เร็ตสรุป “เทรดเดอร์ที่สามารถรักษาความตั้งใจ มีความยืดหยุ่น และมองการณ์ไกล จะสามารถค้นหาโอกาสได้ในช่วงเวลาที่นักลงทุนรายอื่นยังลังเล”


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

ความท้าทายด้านจิตวิทยาการ Copy Trade และวิธีเอาชนะ

ความท้าทายด้านจิตวิทยาการ Copy Trade และวิธีเอาชนะ

EBC Financial Group ใช้เครื่องมือ Brokeree เพื่อสนับสนุนการ Copy Trade อย่างมีวินัย พร้อมระบบบริหารความเสี่ยงและแหล่งความรู้ เพื่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

2025-07-25
EBC Financial Group มอบเงิน 10,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นดานัสในไต้หวัน

EBC Financial Group มอบเงิน 10,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นดานัสในไต้หวัน

ในยามวิกฤต EBC ขอยืนเคียงข้างชาวไถหนานและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ โดยให้การสนับสนุนการบรรเทาภัยฉุกเฉิน การฟื้นฟู และการสร้างความเข้มแข็ง

2025-07-16
อินโดนีเซียเดินหน้าข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ มูลค่า 34 พันล้านดอลลาร์

อินโดนีเซียเดินหน้าข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ มูลค่า 34 พันล้านดอลลาร์

EBC Financial Group วิเคราะห์ข้อเสนอการค้ากลยุทธ์ของอินโดนีเซีย เนื่องจากภาษีสินค้าของยุคทรัมป์กำลังคุกคามการส่งออกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

2025-07-15