วิธีคำนวณขนาด Lot น้ำมัน สำหรับมือใหม่

2025-07-11
สรุป

เรียนรู้วิธีการคำนวณขนาด Lot น้ำมันอย่างแม่นยำ เพื่อจัดการความเสี่ยงและเพิ่มผลกำไรจากการเทรดให้สูงสุด เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ฟิวเจอร์และ CFD

น้ำมันดิบ คือหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก ตั้งแต่ผู้เก็งกำไรจนถึง Heading เทรดเดอร์ต่างหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดน้ำมันเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา อย่างไรก็ตาม หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดแต่มักถูกมองข้ามในการเทรดน้ำมันดิบคือ วิธีคำนวณขนาด Lot ที่ถูกต้อง


การเทรดน้ำมันผ่าน CFD, ฟิวเจอร์ หรือออปชัน จำเป็นต้องเข้าใจจำนวนจริงที่คุณกำลังเทรด เพราะสิ่งนี้เป็นตัวกำหนดว่าการเติบโตของคุณจะยั่งยืนหรือจะนำไปสู่การขาดทุนที่สามารถหลีกเลี่ยงได้


ในบทความนี้จะแยกแยะทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับขนาดล็อตน้ำมันดิบ วิธีการคำนวณ และเหตุผลว่าทำไมมันถึงมีความสำคัญต่อกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงของคุณ


Lot ในตลาดน้ำมัน คืออะไร?

Crude Oil Lot Size (2)

ในศัพท์การเทรด “Lot” หมายถึงปริมาณมาตรฐานของสินทรัพย์ที่ถูกซื้อขาย ในการเทรดน้ำมันดิบ ขนาดล็อตจะกำหนดปริมาณน้ำมันที่คุณกำลังซื้อหรือขายในสัญญาหนึ่งสัญญา


ขนาดล็อตมาตรฐานสำหรับน้ำมันดิบ โดยเฉพาะเมื่อต้องเทรด WTI (West Texas Intermediate) หรือน้ำมันเบรนต์ มักจะอยู่ที่ 1,000 บาร์เรลต่อสัญญา อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มหรือโบรกเกอร์ อาจมีล็อตย่อย เช่น มินิล็อตขนาด 100 บาร์เรล หรือไมโครล็อตขนาด 10 บาร์เรล โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม CFD และสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย


การเข้าใจขนาดล็อตของคุณมีความสำคัญมาก เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อ:


  • กำไร/ขาดทุนของคุณต่อการเคลื่อนไหวของราคา (เรียกว่า “pip” หรือ “tick”)

  • จำนวนเงินประกันหรือทุนที่ต้องใช้สำหรับการเทรด

  • ปริมาณความเสี่ยงหรือการเปิดรับความเสี่ยงทั้งหมดที่คุณมีในตลาด


เครื่องมือสำหรับการเทรดน้ำมันดิบ


1. สัญญา Future น้ำมัน

เป็นสัญญามาตรฐานที่ซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้า โดยแต่ละสัญญามักจะเป็นตัวแทนของน้ำมันดิบจำนวน 1,000 บาร์เรล


2. สัญญา CFD น้ำมัน

โบรกเกอร์ให้บริการ CFDs ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรจากราคาน้ำมันได้โดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์จริง โดยโบรกเกอร์ CFDs อาจมีขนาดล็อตที่ยืดหยุ่น เช่น:

  • 1 ล็อต = 100 บาร์เรล

  • 0.1 ล็อต = 10 บาร์เรล

  • 0.01 ล็อต = 1 บาร์เรล


3. ETF และออปชั่น

แม้จะไม่ได้เทรดตามล็อตเหมือนฟิวเจอร์สและ CFDs แต่การลงทุนใน ETF และออปชันน้ำมันก็ต้องเข้าใจการเปิดรับความเสี่ยงเทียบเท่าต่อหน่วยด้วย


วิธีคำนวณขนาด Lot น้ำมัน: คู่มือทีละขั้นตอน

Calculate Crude Oil Lot Size

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดสกุลเงินบัญชีของคุณ

การคำนวณขนาดล็อตของคุณขึ้นอยู่กับว่าสกุลเงินในบัญชีเทรดของคุณเป็นสกุลเงินใด เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), รูปีอินเดีย (INR) หรือสกุลเงินอื่น ๆ น้ำมันดิบมีการกำหนดราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก ดังนั้นถ้าบัญชีของคุณใช้สกุลเงิน USD การคำนวณจะง่ายกว่า


แต่ถ้าคุณใช้สกุลเงินอื่น คุณจะต้องแปลงมูลค่าตำแหน่งเป็นสกุลเงินในบัญชีของคุณก่อนทำการคำนวณต่อไป


ขั้นตอนที่ 2: ระบุความเสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้ง

การบริหารความเสี่ยงอย่างมืออาชีพแนะนำให้เสี่ยงเพียง 1% ถึง 2% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละการเทรด เช่น หากคุณมีเงินในบัญชี 10,000 ดอลลาร์ และต้องการเสี่ยง 2% หมายความว่า:


  • ความเสี่ยงต่อการเทรด = 10,000 × 0.02 = 200 ดอลลาร์


ซึ่งเป็นจำนวนเงินสูงสุดที่คุณพร้อมจะเสียหากการเทรดนั้นไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง


ขั้นตอนที่ 3: กำหนดจุดหยุดขาดทุน (Stop-Loss) เป็นจำนวนจุดหรือการเคลื่อนไหวของราคา

ในตลาดน้ำมันดิบ 1 จุด (pip หรือ point) เท่ากับการเปลี่ยนแปลงราคา 0.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


สมมติว่าคุณตั้งจุดหยุดขาดทุนไว้ที่ 1.00 ดอลลาร์ในแต่ละการเทรด ถ้าคุณเทรด 1 บาร์เรล การเคลื่อนไหวราคา 1.00 ดอลลาร์จะหมายถึง:


  • ขาดทุน = 1 บาร์เรล × 1 ดอลลาร์ = 1 ดอลลาร์


แต่ถ้าคุณเทรด 100 บาร์เรล (1 มินิล็อต) การเคลื่อนไหวราคา 1.00 ดอลลาร์จะหมายถึง:


  • ขาดทุน = 100 บาร์เรล × 1 ดอลลาร์ = 100 ดอลลาร์


ตอนนี้ โดยใช้จำนวนความเสี่ยงต่อการเทรดจากขั้นตอนที่ 2 คุณก็สามารถคำนวณจำนวนบาร์เรลที่เหมาะสมได้


ขั้นตอนที่ 4: ใช้สูตรนี้เพื่อคำนวณขนาดล็อต (Lot Size)

ขนาดล็อต = ความเสี่ยงต่อการเทรด / (จุดหยุดขาดทุนเป็นดอลลาร์ × มูลค่าของ pip ต่อบาร์เรล)


สมมติ:

  • ความเสี่ยงต่อการเทรด = 200 ดอลลาร์

  • จุดหยุดขาดทุน = 1.50 ดอลลาร์

  • มูลค่าของ pip ต่อบาร์เรล = 1 ดอลลาร์


ขนาดล็อต = 200 / 1.50 = ประมาณ 133.33 บาร์เรล


นั่นหมายความว่าคุณควรเทรดประมาณ 1.33 มินิล็อต (ถ้า 1 มินิล็อต = 100 บาร์เรล) หรือ 13 ไมโครล็อต (ถ้า 1 ไมโครล็อต = 10 บาร์เรล) โดยปกติควรปัดเศษลงเป็น 130 บาร์เรล หรือเลือกขนาดล็อตที่ใกล้เคียงที่สุดที่โบรกเกอร์ของคุณอนุญาต


ตัวอย่าง


มาลองสมมติกันว่า:


  • คุณมีบัญชีเทรดมูลค่า 5,000 ดอลลาร์ กับโบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรอง

  • คุณต้องการเสี่ยง 1% หรือ 50 ดอลลาร์

  • คุณตั้งจุด Stop Loss ที่ 0.50 ดอลลาร์

  • โบรกเกอร์กำหนด 1 CFD ล็อต = 100 บาร์เรล


ตอนนี้คำนวณ:

  • ขนาดล็อต = 50 ดอลลาร์ / 0.50 ดอลลาร์ = 100 บาร์เรล


ซึ่งก็คือ 1 มินิล็อต คุณสามารถสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์ม MT4/MT5 ของโบรกเกอร์ได้สะดวก ถ้าโบรกเกอร์อนุญาตให้เทรดไมโครล็อต คุณก็สามารถเลือกเทรด 0.5 มินิล็อต (50 บาร์เรล) ได้ด้วย โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการระมัดระวังมากขึ้น


ข้อกำหนดมาร์จิ้นสำหรับการเทรดน้ำมัน


มาร์จิ้นคือจำนวนเงินทุนที่โบรกเกอร์ของคุณต้องการให้มีในบัญชีเพื่อเปิดสถานะซื้อขาย ขึ้นอยู่กับ:


  • ขนาดล็อต

  • เลเวอเรจที่โบรกเกอร์ให้

  • ราคาน้ำมัน


สูตร:

  • มาร์จิ้น = (ขนาดล็อต × ราคาน้ำมัน) / เลเวอเรจ


ถ้า:

  • ราคาน้ำมัน = 80 เหรียญต่อบาร์เรล

  • ขนาดล็อต = 100 บาร์เรล

  • เลเวอเรจ = 1:100


คำนวณ:

  • มาร์จิ้น = (100 × 80 เหรียญ) / 100 = 80 เหรียญ


นั่นหมายความว่า คุณต้องมีเงินเพียง 80 ดอลลาร์ในบัญชีเพื่อควบคุมน้ำมันมูลค่า 8,000 ดอลลาร์


แต่ต้องระวัง เพราะเลเวอเรจที่สูงจะเพิ่มความเสี่ยง หากราคาน้ำมันเคลื่อนไหวสวนทางกับตำแหน่งของคุณ การขาดทุนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นควรใช้เลเวอเรจและขนาดล็อตให้เหมาะสมเสมอ


ขนาดล็อตกับความผันผวนของราคาน้ำมัน


น้ำมันดิบมีความผันผวนสูง ข่าวสาร เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือการประชุม OPEC สามารถทำให้ราคาขยับขึ้นลงได้ $2 ถึง $5 ภายในวันเดียว


ผลกระทบต่อขนาดล็อตมีดังนี้:


  • การเคลื่อนไหว 2 ดอลลาร์ต่อ 1,000 บาร์เรล = กำไร/ขาดทุน 2,000 ดอลลาร์

  • การเคลื่อนไหว 2 ดอลลาร์ต่อ 100 บาร์เรล = กำไร/ขาดทุน 200 ดอลลาร์


เพื่อจัดการกับความผันผวนนี้ คุณอาจเลือกลดขนาดล็อต หรือขยายระยะการตั้งจุดหยุดขาดทุน (stop-loss) ให้เหมาะสมพร้อมปรับขนาดล็อต


อย่ากำหนดขนาดล็อตอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ควรตั้งให้สอดคล้องกับระยะทาง stop-loss และเงินทุนของคุณเสมอ


การบริหารความเสี่ยงด้วยขนาดล็อตน้ำมัน


กุญแจสำคัญในการอยู่รอดจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบคือการบริหารความเสี่ยงที่ดี เริ่มจากการเลือกขนาดล็อตที่เหมาะสมกับความยอมรับความเสี่ยง ขนาดบัญชี และระยะทางของจุดหยุดขาดทุน (stop-loss)


วิธีที่เทรดเดอร์เก่งๆ ใช้ในการบริหารความเสี่ยง:


  • คำนวณขนาดตำแหน่งล่วงหน้าก่อนเปิดออร์เดอร์

  • ไม่เสี่ยงเกิน 2% ของเงินทุนในแต่ละการเทรด

  • ใช้จุดหยุดขาดทุน และไม่ใช้เลเวอเรจเกินควร

  • ลดขนาดล็อตในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น การประชุม OPEC


ขนาดล็อตยังขึ้นอยู่กับบริบทของตลาดด้วย ในสถานการณ์ที่มีความผันผวนสูง อาจพิจารณาลดขนาดล็อตลงครึ่งหนึ่งเพื่อลดความเสี่ยง


คำแนะนำสุดท้ายสำหรับเทรดเดอร์น้ำมัน

Crude Oil Trading

ถ้าคุณเป็นมือใหม่ในการเทรดน้ำมัน ด่านแรกที่ควรใส่ใจคือขนาดล็อต มากกว่าการใช้เลเวอเรจหรืออินดิเคเตอร์ นี่คือเหตุผล:


  • ขนาดล็อตที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณไม่เทรดเกินกำลัง

  • ช่วยควบคุมการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่รับได้

  • เพิ่มความสม่ำเสมอในการเทรดด้วยการกำหนดขนาดการเปิดตำแหน่งอย่างมีมาตรฐาน


หลายคนเริ่มต้นผิดพลาดไม่ใช่เพราะทิศทางตลาดผิด แต่เพราะใช้เลเวอเรจสูงเกินไปและคำนวณขนาดล็อตไม่ถูกต้อง


ฝึกเทรดในบัญชีทดลองก่อน เพื่อทำความเข้าใจว่าราคาน้ำมันเคลื่อนที่อย่างไรในแต่ละล็อต และระดับความเสี่ยงที่คุณรับไหวเมื่อเจอสภาวะความผันผวนของตลาดจริง ๆ


บทสรุป


สรุปแล้ว การเทรดน้ำมันดิบสามารถทำกำไรได้ดีมาก แต่ต้องทำอย่างมีวินัย การเข้าใจวิธีคำนวณขนาด Lot น้ำมันจะช่วยให้คุณควบคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้น เทรดด้วยความมั่นใจ และสร้างกลยุทธ์ระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เมื่อคุณพัฒนากลยุทธ์การเทรดของตัวเอง ควรทบทวนกฎการกำหนดขนาดล็อตอย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการเติบโตของบัญชีและการเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์ รวมทั้งควบคู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ดี คุณก็จะพร้อมที่จะเทรดน้ำมันอย่างมืออาชีพได้ในไม่ช้า


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

สิ่งที่ผู้ค้าควรรู้เกี่ยวกับ VDE ในตลาดที่มีความผันผวน

สิ่งที่ผู้ค้าควรรู้เกี่ยวกับ VDE ในตลาดที่มีความผันผวน

เทรด VDE อย่างมืออาชีพ รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงสร้าง สภาพคล่อง ความผันผวน และวิธีที่ ETF นี้เหมาะสมกับกลยุทธ์มหภาค เทคนิค และออปชัน

2025-07-16
รู้จัก ตะกร้าค่าเงิน Forex เคล็ดลับวิเคราะห์ค่าเงินที่คุณอาจไม่รู้

รู้จัก ตะกร้าค่าเงิน Forex เคล็ดลับวิเคราะห์ค่าเงินที่คุณอาจไม่รู้

เจาะลึกความหมายของ ตะกร้าค่าเงิน Forex หลักการทำงาน มีประโยชน์อย่างไรบ้าง เหตุผลที่ต้องมี พร้อมตัวอย่างกลุ่มสกุลเงินที่สำคัญ

2025-07-16
เปิดข้อมูล Fibonacci Retracement เครื่องมือหาแนวรับแนวต้าน

เปิดข้อมูล Fibonacci Retracement เครื่องมือหาแนวรับแนวต้าน

เจาะลึก Fibonacci Retracement คืออะไร? ทำความเข้าใจหลักการทำงาน ระดับสำคัญ และวิธีการลากเส้นเพื่อวิเคราะห์กราฟราคาสำหรับเทรดเดอร์สายเทคนิคคอล

2025-07-16