อัปเดตล่าสุดเดือนกรกฎาคม 2025: ยังไม่มีกำหนดเปิดตัวสกุลเงิน BRICS การประชุม ยังคงเน้นการใช้สกุลเงินท้องถิ่นเป็นหลัก และระบบการจ่ายเงิน BRICS จะมีความคืบหน้าอย่างไร?
แนวโน้มการออกสกุลเงิน BRICS เป็นประเด็นที่ตลาดจับตามานานหลายปี แต่กรอบเวลาการเปิดตัวยังไม่ชัดเจน หลังการประชุมสุดยอด BRICS เดือนกรกฎาคม 2025 ที่ริโอเดจาเนโร ข้อมูลใหม่เผยรายละเอียดที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
ในบทความนี้ จะประเมินถึงสถานะล่าสุดของโครงการ BRICS พร้อมเหตุผลที่เกิดความล่าช้า และสิ่งที่เทรดเดอร์ควรติดตาม
การประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 17 ที่ประเทศบราซิลเป็นเจ้าภาพเมื่อวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2025 ได้สร้างความคาดหมายอย่างหนักว่าการเปิดตัวสกุลเงินร่วมอาจมีความชัดเจนขึ้น ทว่าผู้นำกลับส่งสัญญาณเดิม คือเน้นความร่วมมือทางการเงินที่ใกล้ชิดขึ้น แต่ยังไม่มีการประกาศใช้สกุลเงินเดียว
ผลลัพธ์ที่สำคัญ:
ไม่มีการประกาศเปิดตัวสกุลเงินร่วม BRICS
ผู้นำกลุ่มให้คำมั่นจะ “เดินหน้าหารือทางเทคนิค” ต่อไปในเรื่องระบบการชำระเงิน
โครงการ BRICS Pay แพลตฟอร์มการชำระเงินข้ามพรมแดนร่วมกัน ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยบราซิลรับผิดชอบการดำเนินงานในขั้นตอนถัดไป
อินเดียย้ำว่ากลุ่ม BRICS “ไม่ได้มีเจตนาลับในการลดบทบาทของดอลลาร์” ช่วยลดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์บางส่วน
เจ้าหน้าที่รัสเซียยืนยันความคืบหน้าในการชำระเงินการค้าด้วยสกุลเงินท้องถิ่นแทนการใช้ดอลลาร์สหรัฐฯ
Bloomberg สรุปบรรยากาศได้อย่างชัดเจนในหัวข้อข่าววันที่ 6 กรกฎาคมว่า: “ความพยายามผลักดันใช้สกุลเงินท้องถิ่นของ BRICS ที่มีมากว่า 10 ปี ยังคงเป็นเพียงความฝันที่ยังไม่เป็นจริง”
อินโดนีเซียได้เข้าร่วมกลุ่มอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2025 ส่งผลให้จำนวนสมาชิกเพิ่มเป็นสิบประเทศ ได้แก่ บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน, แอฟริกาใต้, อียิปต์, เอธิโอเปีย, อินโดนีเซีย, อิหร่าน และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
การขยายตัวของกลุ่มช่วยเพิ่มน้ำหนักทางการค้า แต่ก็เพิ่มความซับซ้อนสำหรับการรวมตัวทางการเงิน เพราะขนาด GDP อัตราเงินเฟ้อ และระบบการคลังของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันมากขึ้น ทำให้การรวมตัวทางการเงินยิ่งซับซ้อนกว่าเดิม
แม้ว่าสกุลเงินร่วมจะยังอยู่ไกลออกไป แต่การค้าภายในกลุ่ม BRICS กำลังลดการใช้ดอลลาร์ลงอย่างชัดเจน ข้อมูลที่เผยแพร่ในที่ประชุมสุดยอดระบุว่า ขณะนี้ประมาณ 90% ของการค้าระหว่างประเทศในกลุ่ม BRICS ถูกชำระด้วยสกุลเงินท้องถิ่น เพิ่มขึ้นจากประมาณ 65% เมื่อสองปีก่อน การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้สะท้อนจาก:
การทำธุรกรรมพลังงานที่ตั้งราคาด้วยหยวนหรือรูเบิล
เส้นทางการค้าระหว่างอินเดียกับรัสเซียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ใช้สกุลรูปี
การเพิ่มขึ้นของสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราสองฝ่าย (bilateral swap lines) ที่ไม่ผ่านระบบ SWIFT
สำหรับนักเทรด การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างสภาพคล่องใหม่ในคู่สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ (EMFX) และลดความต้องการใช้ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการชำระค่าสินค้าบางประเภทลงอย่างมีนัยสำคัญ
BRICS Pay ซึ่งถูกเสนอครั้งแรกในปี 2019 มีเป้าหมายเชื่อมโยงเครือข่ายการชำระเงินรวดเร็วของแต่ละประเทศ และในอนาคตรองรับการโอนเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ตรงกันข้ามกับข่าวลือก่อนหน้านี้ แพลตฟอร์มนี้ยังไม่เปิดใช้งานจริง รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวที่ริโอว่า โครงการนี้ “จะได้รับการสานต่อโดยทีมบราซิล” และมีความเป็นไปได้จะเริ่มทดสอบแบบนำร่อง “ก่อนสิ้นปี 2026” จนกว่าจะถึงเวลานั้น คาดว่าจะมีเพียงการทดสอบขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
1. ความแตกต่างทางเศรษฐกิจ
กลุ่ม BRICS-10 ครอบคลุมเศรษฐกิจตั้งแต่จีนที่มีมูลค่า 17 ล้านล้านดอลลาร์ ไปจนถึงเอธิโอเปียที่มีมูลค่าราว 1.5 แสนล้านดอลลาร์ อัตราเงินเฟ้อแตกต่างกันตั้งแต่หลักหน่วยต่ำในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปจนถึงหลักสองหลักในอียิปต์ การปรับนโยบายการเงินให้สอดคล้องกันภายใต้ระบบเดียวกันจำเป็นต้องมีการประสานงานด้านการคลังในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และต้องมีธนาคารกลางเหนือชาติ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มี
2. อำนาจอธิปไตยทางการเมือง
การสละสิทธิ์ควบคุมอัตราดอกเบี้ยและปริมาณเงิน เป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะสำหรับอินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้ ที่มีตลาดทุนในประเทศลึกซึ้งและใช้สกุลเงินลอยตัว นโยบายการผลักดันหยวนสู่สากลของจีนก็เป็นอีกปัจจัยที่แข่งขันกับแนวคิดสกุลเงินใหม่ร่วมของกลุ่ม
3. อุปสรรคทางกฎหมายและเทคนิค
ระบบควบคุมเงินทุนของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ยังไม่มีกรอบงานร่วมสำหรับการประกันเงินฝากหรือการแก้ไขปัญหาในระบบธนาคาร
โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชำระเงินแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX clearing) ต้องรองรับการทำงานใน 10 เขตอำนาจศาล และหลายระบบตัวอักษรที่แตกต่างกัน
คลื่นผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์: การคุกคามเรื่องภาษีจากวอชิงตัน
การประชุมสุดยอดทำให้สหรัฐฯ ตอบโต้ทันที โดยประธานาธิบดีทรัมป์เตือนว่าจะเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% กับประเทศที่ “สอดคล้องกับนโยบายต่อต้านสหรัฐฯ ของกลุ่ม BRICS” แม้ในขณะนี้จะเป็นเพียงคำพูดเชิงสัญลักษณ์ แต่คำขู่นี้สร้างความไม่แน่นอนเพิ่มเติมแก่ผู้ส่งออกในกลุ่ม และอาจทำให้ความผันผวนของคู่สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ (EMFX) เพิ่มสูงขึ้น
1. คู่สกุลเงินที่ควรจับตา
ปริมาณการซื้อขายคู่เงิน CNY/RUB, INR/CNY และ ZAR/CNY ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คู่ USD/BRL และ USD/ZAR อาจพบช่วงอ่อนค่าชั่วคราว เนื่องจากการชำระเงินด้วยสกุลเงินท้องถิ่นขยายตัว
กลุ่มเทรดเดอร์เริ่มเสนอราคาดัชนี “BRICS-10” แบบถ่วงน้ำหนักเท่ากัน เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง
2. อัตราดอกเบี้ยและพันธบัตร
การออกพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นโดยธนาคารพัฒนา BRICS มีแนวโน้มขยายตัว เปิดโอกาสหาผลตอบแทนเปรียบเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ควรจับตาการบีบตัวของส่วนต่างผลตอบแทนในพันธบัตรสีเขียวที่ออกในสกุลหยวนและรูปี
3. สินค้าโภคภัณฑ์
น้ำมันรัสเซียที่ขายในสกุลหยวนหรือรูเบิล ส่งผลให้รูปแบบการตั้งราคา Urals เปลี่ยนไป
ศูนย์ทองคำสำคัญที่ดูไบและเซี่ยงไฮ้ กำลังทดลองระบบชำระเงิน BRICS Pay ซึ่งอาจเปลี่ยนทิศทางสภาพคล่องของตลาด LBMA ไปทางตะวันออกมากขึ้น
4. หุ้น
ผู้ให้บริการระบบชำระเงิน ศูนย์คลียริ่งภูมิภาค และระบบจับคู่สกุลเงินที่ใช้ AI อาจได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของการไหลของเงินทุนข้ามพรมแดนในคู่สกุลเงินที่ไม่ใช่ดอลลาร์ ขณะที่บริษัทส่งออกหนักในกลุ่ม BRICS-10 อาจเผชิญกับความเสี่ยงค่าเบี้ยประกันจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
ข่าวแรงกระแทก: ข่าวลือจากการประชุมสุดยอด BRICS อาจทำให้ราคาคู่สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ (EMFX) ผันผวนรุนแรง ควรตั้งจุดตัดขาดทุน (stop loss) อย่างเข้มงวดในช่วงการประชุม
ช่องว่างสภาพคล่อง: คู่เงินข้ามกลุ่ม BRICS บางคู่ยังมีสภาพคล่องต่ำ แนะนำใช้คำสั่งจำกัดราคา (limit orders) และระวังช่องว่างราคาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์: ติดตามประกาศภาษีหรือมาตรการคว่ำบาตรที่อาจทำให้ความก้าวหน้าของระบบชำระเงินหยุดชะงัก
การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ: กรอบการทำงานของสกุลเงินดิจิทัลธนาคารกลาง (CBDC) เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ควรตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการควบคุมเงินทุนในประเทศอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์
คุณภาพข้อมูล: สถิติทางเศรษฐกิจจากสมาชิก BRICS ขนาดเล็กบางประเทศอาจถูกปรับแก้ข้อมูลบ่อย ควรเผื่อความไม่แน่นอนในโมเดลวิเคราะห์ของตนด้วย
การเทรดความผันผวนตามเหตุการณ์: ใช้กลยุทธ์ straddle รอบการประชุม BRICS ในอนาคต หรือประกาศจากธนาคารพัฒนาใหม่ (NDB)
Carry-and-Roll: ใช้สวอประยะสั้นเก็งกำไรจากอัตราดอกเบี้ยสูงในอินเดียและบราซิล เทียบกับสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำ
พันธบัตรเชิงมูลค่าสัมพัทธ์: ถือพันธบัตรที่ออกโดย NDB ในสกุลเงินเรียล (เงินท้องถิ่น) พร้อมป้องกันความเสี่ยงด้วยพันธบัตรสหรัฐฯ ที่มีระยะเวลาคล้ายกัน
ตะกร้าหุ้นธีมเฉพาะ: ผู้พัฒนาระบบชำระเงิน, โครงการโครงสร้างพื้นฐานตลาดเกิดใหม่ และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ระดับภูมิภาค
แล้วสกุลเงิน BRICS เปิดตัวเมื่อไหร่? คำตอบอย่างตรงไปตรงมาคือ ยังไม่มีในเร็วๆ นี้ การประชุมสุดยอดเดือนกรกฎาคม 2025 ยืนยันว่าประเทศสมาชิกให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อระบบชำระเงินและการค้าด้วยสกุลเงินท้องถิ่น มากกว่าการก้าวกระโดดไปสู่การรวมตัวแบบสกุลเงินยูโร
สำหรับนักเทรด โอกาสที่น่าสนใจอยู่ที่การติดตามความคืบหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น การทดสอบ BRICS Pay การเชื่อมโยง CBDC เส้นทางแลกเปลี่ยนเงินตรา (swap lines) และการปรับเปลี่ยนในกระแสเงินตราต่างประเทศ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงการออกพันธบัตร มากกว่าการเสี่ยงเดิมพันกับวันเปิดตัวสกุลเงินที่ยังไม่มีความแน่นอนและเลื่อนออกไปในอนาคต
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เจาะลึกความหมายของ ตะกร้าค่าเงิน Forex หลักการทำงาน มีประโยชน์อย่างไรบ้าง เหตุผลที่ต้องมี พร้อมตัวอย่างกลุ่มสกุลเงินที่สำคัญ
2025-07-16เจาะลึก Fibonacci Retracement คืออะไร? ทำความเข้าใจหลักการทำงาน ระดับสำคัญ และวิธีการลากเส้นเพื่อวิเคราะห์กราฟราคาสำหรับเทรดเดอร์สายเทคนิคคอล
2025-07-16ราคาหุ้น RXST ร่วงลงเกือบ 80% ในปี 2025 หลังจากปรับลดคาดการณ์รายได้ อ่านต่อเพื่อดูข้อมูลเชิงลึกจากเทรดเดอร์ ความเสี่ยง มุมมองของนักวิเคราะห์ และสัญญาณซื้อ/ขาย
2025-07-16