ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง? คู่มือเวลาเปิด-ปิดตลาด

ในยุคที่ตลาดการเงินทั่วโลกเชื่อมต่อกันอย่างใกล้ชิด นักเทรดและนักลงทุนสามารถซื้อขายได้แทบตลอด 24 ชั่วโมง แต่การเข้าใจว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงในแต่ละประเทศ รวมถึงเวลาที่ตลาดหุ้นเปิด-ปิดนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งช่วยให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์และต้องการขยายโอกาสสู่ตลาดต่างประเทศ การรู้ช่วงเวลาทำการของตลาดหุ้นจะช่วยให้คุณวางแผนและจับจังหวะลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำทั่วโลก พร้อมแนะนำการเทรดก่อนตลาดเปิดและหลังตลาดปิด เพื่อให้คุณปรับกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างเหมาะสมกับเวลาของตลาดจริง ๆ

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเวลาทำการของตลาดหุ้น

เวลาทำการตลาดหุ้น หมายถึงช่วงเวลาที่หุ้นสามารถซื้อขายได้อย่างเป็นทางการบนตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งแต่ละตลาดจะกำหนดเวลาทำการที่มักจะตรงกับเวลาทำงานของธุรกิจในพื้นที่นั้น ๆ โดยปกติจะมีช่วงเวลาซื้อขายหลัก รวมถึงช่วงก่อนตลาดเปิดและหลังตลาดปิดด้วย

แตกต่างจากตลาด Forex ตรงที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง ตลาดหุ้นจะเปิดเฉพาะในเวลาที่กำหนด โดยปกติจะเปิดทำการ 5 วันต่อสัปดาห์ หยุดในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ การซื้อขายนอกเวลาทำการนี้มักจะมีสภาพคล่องต่ำและสเปรดกว้างขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการส่งคำสั่งซื้อขาย

ดังนั้น การทราบเวลาที่ตลาดเปิดทั้งในเขตเวลาท้องถิ่นและต่างประเทศจะช่วยให้นักเทรดสามารถจับโอกาสจากการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการจับจังหวะเวลาซื้อขาย

ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง?

1. ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และ NASDAQ – สหรัฐฯ

• เวลาท้องถิ่น: 09:30 น. - 16:00 น. (เวลาตะวันออก)

NYSE และ NASDAQ เป็นตลาดหุ้นใหญ่ของสหรัฐฯ ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงและมีอิทธิพลทั่วโลก โดยชั่วโมงแรก (9:30 น. – 10:30 น.) มักเป็นช่วงที่ราคาผันผวนมากที่สุด เนื่องจากการตอบสนองข่าวสารช่วงกลางคืนและการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน

2. ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) – สหราชอาณาจักร

• เวลาท้องถิ่น: 08:00 น. - 16:30 น. (เวลา GMT)

LSE เป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุด โดยมีบทบาทสำคัญในการซื้อขายหุ้นยุโรปและหุ้นต่างประเทศ ช่วงเวลาที่ตลาดลอนดอนและสหรัฐฯ เปิดพร้อมกัน (19:00 น. – 22:00 น. ตามเวลา IST) มักทำให้เกิดความผันผวนสูงขึ้น

3. ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) – ญี่ปุ่น

• เวลาท้องถิ่น: 09:00 น. - 15:00 น. (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น)

TSE เป็นตลาดหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายหุ้นเอเชียสูง โดยแบ่งเป็นช่วงเช้าและบ่าย มีพักกลางวัน ช่วงเวลานี้สำคัญสำหรับการซื้อขายหุ้นบริษัทญี่ปุ่นและการตอบสนองต่อตลาดโลกช่วงเช้า

4. ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SSE) – จีน

• เวลาท้องถิ่น: 09:30 น. - 15:00 น. (เวลามาตรฐานจีน)

SSE เป็นตลาดหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ในจีนแผ่นดินใหญ่และมีบทบาทสำคัญต่อความเคลื่อนไหวตลาดเอเชีย แม้การเข้าถึงของนักลงทุนต่างชาติจะจำกัด แต่ดัชนีเศรษฐกิจจีนในช่วงเวลานี้ส่งผลต่อตลาดทั่วโลก

5. ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX)

• เวลาท้องถิ่น: 09:30 น. - 16:00 น. (เวลาฮ่องกง)

HKEX เป็นประตูสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงโอกาสการเติบโตของจีนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตลาดนี้แบ่งช่วงเวลาซื้อขายเป็นสองรอบ โดยมีพักกลางวันคั่นกลาง

6. ตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติ (NSE) และตลาดหลักทรัพย์บอมเบย์ (BSE) – อินเดีย

• เวลาท้องถิ่น: 09:15 น. - 15:30 น. (เวลา IST)

NSE และ BSE เปิดทำการโดยไม่มีพักกลางวัน โดยจะมีช่วงเตรียมเปิดตลาดเริ่มตั้งแต่ 9:00 น. เพื่อกำหนดราคาตลาดเปิด ตลาดเหล่านี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน

7. Euronext (ปารีส, อัมสเตอร์ดัม, บรัสเซลส์, ลิสบอน)

• เวลาท้องถิ่น: 09:00 น. - 17:30 น. (เวลา CET)

Euronext เป็นตลาดหุ้นยุโรปที่รวมตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งในทวีป ให้โอกาสลงทุนในเศรษฐกิจหลักของยุโรป โดยจะคึกคักเป็นพิเศษเมื่อเวลาทำการของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรทับซ้อนกัน

8. ตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต (Deutsche Börse) – เยอรมนี

• เวลาท้องถิ่น: 09:00 น. - 17:30 น. (เวลา CET)

ตลาดนี้เป็นที่ตั้งของดัชนี DAX ซึ่งมีความสำคัญสำหรับนักลงทุนหุ้นยุโรปและผู้ติดตามเศรษฐกิจยูโรโซน

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรดหุ้นทั่วโลก

โดยทั่วไป ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเทรดหุ้นมักอยู่ในชั่วโมงแรกและชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขายในแต่ละวัน ซึ่งเป็นช่วงที่มีความผันผวนและสภาพคล่องสูงที่สุด เนื่องจากมีกิจกรรมของนักลงทุนสถาบัน ปริมาณคำสั่งซื้อขายจำนวนมาก และข่าวสารที่ออกมาในช่วงเวลาดังกล่าว

ตัวอย่างช่วงเวลาที่แนะนำ:

• NYSE/NASDAQ: 19.00 น. - 20.30 น. และ 00.30 น. - 01.30 น.  (ตามเวลา IST)

• LSE: 13.30–15.30 น. (ตามเวลา IST)

• NSE/BSE: 9:15 น. - 10:30 น. และ 14:30 น. - 15:30 น. (ตามเวลา IST)

ในช่วงเวลาเหล่านี้ นักเทรดจะพบกับการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจน สเปรดแคบลงและรูปแบบทางเทคนิคที่น่าเชื่อถือมากขึ้น

การซื้อขายก่อนและหลังเวลาตลาด (Pre-Market และ After-Hours)

การซื้อขายหุ้นไม่ได้จำกัดเฉพาะช่วงเวลาปกติเท่านั้น ช่วงก่อนตลาดเปิด (Pre-Market) และหลังตลาดปิด (After-Hours) ก็เปิดโอกาสให้นักลงทุนตอบสนองต่อข่าวสารและผลประกอบการที่ประกาศนอกเวลาทำการ

ช่วงก่อนตลาดเปิด (Pre-Market)

• เวลาทำการในสหรัฐฯ: 04:00 – 09:30 น. ET (ตรงกับ 13:30–19:00 น. IST)

• แม้สภาพคล่องจะต่ำกว่าช่วงปกติ แต่ราคาสามารถผันผวนได้สูง โดยเฉพาะเมื่อตลาดได้รับผลกระทบจากรายงานผลประกอบการหรือข้อมูลเศรษฐกิจ

ช่วงหลังตลาดปิด (After-Hours)

• เวลาทำการในสหรัฐฯ: 16:00 – 20:00 น. ET (ตรงกับ 01:30 – 05:30 น. IST)

• เป็นช่วงที่นักลงทุนตอบสนองต่อข่าวด่วน ซึ่งมักจะทำให้สเปรดกว้างขึ้น และคำสั่งซื้อขายอาจดำเนินการได้ช้ากว่าเวลาปกติ

การซื้อขายก่อนและหลังเวลาตลาดเปิดให้บริการโดยโบรกเกอร์ในสหรัฐฯ เป็นหลัก และมักถูกใช้โดยนักลงทุนมืออาชีพหรือระบบอัลกอริทึม นักลงทุนรายย่อยควรระมัดระวัง เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่าช่วงเวลาปกติ

กลยุทธ์การเทรดตามช่วงเวลาเปิดตลาด

Opening Range Breakout (การทะลุกรอบช่วงเปิดตลาด)

กลยุทธ์นี้เน้นการจับจังหวะที่ราคาทะลุกรอบบนหรือล่างของช่วงราคาที่เกิดขึ้นใน 15–30 นาทีแรกของการซื้อขาย เหมาะอย่างยิ่งกับช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายสูง เช่น ช่วงเปิดตลาดของ NYSE

Gap and Go (ช่องว่างราคาแล้วไปต่อ)

กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อหุ้นเปิดตลาดด้วยการกระโดดของราคาที่ชัดเจน อันเป็นผลจากข่าวสารในช่วงกลางคืน โดยนักเทรดจะมองหาการเคลื่อนไหวต่อเนื่องในทิศทางเดียวกับช่องว่างของราคา (gap)

Arbitrage Opportunities (โอกาสทำกำไรจากส่วนต่างราคา)

นักเก็งกำไรแบบ Arbitrage จะใช้ประโยชน์จากความเหลื่อมล้ำของเวลาทำการในตลาดต่างประเทศเพื่อทำกำไรจากความไม่สมดุลของราคา ตัวอย่างเช่น หุ้นแบบ ADR ที่ซื้อขายในตลาดสหรัฐฯ อาจแสดงความผันผวนของราคาก่อนที่หุ้นในประเทศอินเดียจะเปิดทำการ

สรุป

โดยสรุปแล้ว การเข้าใจเวลาทำการของตลาดหุ้นไม่ใช่แค่เรื่องของตารางเวลาเท่านั้น แต่ถือเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของการเทรด การรู้จักเลือกจังหวะเวลาอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ลดความคลาดเคลื่อนของราคาขณะส่งคำสั่งซื้อขาย (slippage) และทำให้การดำเนินการซื้อขายโดยรวมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับนักเทรดที่ต้องการขยายการลงทุนสู่ตลาดต่างประเทศในปี 2025 การเข้าใจปฏิทินเวลาทำการของตลาดทั่วโลกถือเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างมาก

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ