เจาะลึก Know Sure Thing Indicator พร้อมสูตรและกลยุทธ์

2025-06-24
สรุป

เรียนรู้การทำงานของ Know Sure Thing Indicator พร้อมทั้งสูตรการคำนวณ สัญญาณที่สำคัญ และกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการวิเคราะห์แรงโมเมนตัมของตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค นักเทรดมักใช้อินดิเคเตอร์โมเมนตัมหลากหลายรูปแบบเพื่อระบุสัญญาณซื้อและขายที่มีศักยภาพ หนึ่งในอินดิเคเตอร์ประเภทโมเมนตัมที่ได้รับความนิยมจากนักเทรด คือ Know Sure Thing Indicator (KST)


อินดิเคเตอร์ KST นี้ถูกพัฒนาโดยนักวิเคราะห์ตลาดผู้มีชื่อเสียง Martin Pring ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถระบุจุดกลับตัวของแนวโน้มที่สำคัญและวัดแรงโมเมนตัมของตลาดได้ โดยใช้การรวมอัตราการเปลี่ยนแปลง (Rate of Change) หลายชุดให้กลายเป็นสัญญาณเดียวที่เรียบง่ายและชัดเจน


ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Know Sure Thing Indicator ไม่ว่าจะเป็นหลักการทำงาน วิธีการอ่านสัญญาณ และการนำไปประยุกต์ใช้ในการวางกลยุทธ์การเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ


Know Sure Thing Indicator คืออะไร?

Know Sure Thing Indicator คืออะไร

Know Sure Thing (KST) เป็นอินดิเคเตอร์ประเภทโมเมนตัมที่ใช้วัดอัตราการเปลี่ยนแปลง (Rate of Change) ของราคาบนกรอบเวลา 4 ช่วง แล้วนำมารวมกันเป็นเส้นเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับความผันผวนของราคาในระยะสั้นและระยะยาวให้เรียบขึ้น เพื่อให้เห็นภาพรวมของแรงโมเมนตัมในตลาดอย่างชัดเจน


คุณลักษณะสำคัญของ KST:

  • ประเภท: อินดิเคเตอร์โมเมนตัม

  • จุดประสงค์: ใช้ยืนยันแนวโน้มและตรวจจับจุดกลับตัวของราคา

  • องค์ประกอบหลัก: มี 2 เส้นคือ เส้น KST และเส้นสัญญาณ (Signal Line)


การรวมหลายกรอบเวลาเข้าด้วยกันทำให้ KST สามารถกรองสัญญาณรบกวนระยะสั้น และให้สัญญาณโมเมนตัมที่แม่นยำมากขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดสาย Swing และ Position


วิธีอ่านสัญญาณจาก Know Sure Thing Indicator


การตีความสัญญาณจาก KST ต้องพิจารณาทั้งการตัดกันของเส้น KST และเส้นสัญญาณ รวมถึงการเคลื่อนไหวของเส้นเทียบกับเส้นศูนย์ (Zero Line)


1. สัญญาณขาขึ้น (Bullish Signal)

  • เส้น KST ตัดขึ้นเหนือเส้นสัญญาณ แสดงถึงแรงโมเมนตัมขาขึ้น

  • ถ้าเส้น KST ตัดขึ้นเหนือเส้นศูนย์ ยิ่งยืนยันแนวโน้มขาขึ้น


2. สัญญาณขาลง (Bearish Signal)

  • เส้น KST ตัดลงต่ำกว่าเส้นสัญญาณ แสดงถึงแรงโมเมนตัมขาลง

  • ถ้าเส้น KST ตัดลงต่ำกว่าเส้นศูนย์ ยิ่งยืนยันแนวโน้มขาลง


3. สัญญาณ Divergence

  • ราคาเกิดจุดสูงใหม่ แต่ KST ไม่ตามไป อาจบ่งชี้ว่าโมเมนตัมเริ่มอ่อนแรง (Bearish Divergence)

  • ราคาเกิดจุดต่ำใหม่ แต่ KST ไม่ตามไป อาจบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงกำลังจะกลับตัว (Bullish Divergence)


หลักการคำนวณสูตรของ Know Sure Thing Indicator

อินดิเคเตอร์ KST คำนวณจากการหาอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาบน 4 ช่วงเวลา (Rate of Change: ROC) แล้วนำไปคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และใส่น้ำหนักที่ต่างกัน จากนั้นนำค่าที่ได้มารวมกันเป็นเส้น KST โดยเส้นสัญญาณจะเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของเส้น KST อีกทีหนึ่ง


สูตรพื้นฐาน :

  • KST = ROC1 × SMA1 + ROC2 × SMA2 + ROC3 × SMA3 + ROC4 × SMA4


โดยที่:

  • ROC = อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา

  • SMA = ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายของแต่ละ ROC


ค่าที่ Martin Pring ใช้เป็นค่าเริ่มต้น:

  • ROC: 10, 15, 20, 30

  • SMA: 10, 10, 10, 15

เส้นสัญญาณ: ค่าเฉลี่ย 9 ช่วงของKST


การตั้งค่าเริ่มต้นเหล่านี้สามารถปรับแต่งได้ตามสินทรัพย์และกรอบเวลา


วิธีใช้ Know Sure Thing Indicator ในการเทรด

วิธีใช้ Know Sure Thing Indicator ในการเทรด

นักเทรดสามารถใช้ KST ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันแนวโน้ม การวัดโมเมนตัม การจับ Divergence หรือใช้เป็นสัญญาณซื้อขาย


การใช้งานทั่วไป:

  • การยืนยันแนวโน้ม: เพื่อยืนยันแนวโน้มจากราคาและอินดิเคเตอร์อื่น เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

  • สัญญาณเข้า: ถ้า KST ตัดขึ้นเหนือเส้นสัญญาณ โดยเฉพาะเมื่ออยู่เหนือเส้นศูนย์ ถือเป็นสัญญาณซื้อ

  • สัญญาณออก: ถ้า KST ตัดลงใต้เส้นสัญญาณ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใต้เส้นศูนย์ ถือเป็นสัญญาณขาย

  • ตรวจจับ Divergence: ใช้เปรียบเทียบกับราคาสำหรับหาสัญญาณกลับตัวก่อนที่ราคาจะเปลี่ยนทิศทาง



ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ KST

  • นักเทรดสาย Swing: กราฟรายวันและ 4 ชั่วโมง

  • นักเทรดสาย Position: กราฟรายสัปดาห์

  • นักลงทุนระยะยาว: กราฟรายเดือน


กลยุทธ์การเทรด Know Sure Thing Indicator สำหรับมือใหม่

กลยุทธ์การเทรด Know Sure Thing Indicator สำหรับมือใหม่

1. กลยุทธ์ KST Crossover

วิธีใช้:

  • เปิดสถานะซื้อ (Long) เมื่อเส้น KST ตัดขึ้นเหนือเส้นสัญญาณ

  • เปิดสถานะขาย (Short) เมื่อเส้น KST ตัดลงต่ำกว่าเส้นสัญญาณ

  • ใช้เส้นศูนย์เป็นตัวกรอง เปิดสถานะซื้อเฉพาะเมื่อ KST อยู่เหนือศูนย์ และเปิดสถานะขายเฉพาะเมื่อ KST อยู่ต่ำกว่าศูนย์เท่านั้น


เคล็ดลับ: ควรใช้ร่วมกับรูปแบบราคา เช่น แนวรับแนวต้าน เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเข้าทำรายการ


2. กลยุทธ์ KST ร่วมกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

วิธีใช้:

  • ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (Simple Moving Average: SMA) ช่วง 50 หรือ 200 แท่งบนกราฟ

  • เมื่อราคาปิดเหนือ SMA และ KST ให้สัญญาณตัดขึ้น (Bullish crossover) จะช่วยยืนยันสัญญาณซื้อให้แข็งแกร่งขึ้น

  • เมื่อราคาปิดต่ำกว่า SMA และ KST ให้สัญญาณตัดลง (Bearish crossover) จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณขาย


เหตุผล: การเทรดตามทิศทางแนวโน้มจะช่วยเพิ่มโอกาสชนะในการเทรด


3. กลยุทธ์ Divergence

วิธีใช้:

  • สังเกตราคาเกิดจุดสูงใหม่ แต่ KST ทำจุดสูงต่ำลงกว่าเดิม (Bearish Divergence)

  • สังเกตราคาเกิดจุดต่ำใหม่ แต่ KST ทำจุดต่ำสูงขึ้นกว่าเดิม (Bullish Divergence)

  • เข้าเทรดตามทิศทางของสัญญาณ Divergence เมื่อมีการยืนยันจากรูปแบบราคา เช่น แท่งเทียน engulfing หรือการเบรคแนวโน้ม (trendline break)


ข้อควรระวัง: สัญญาณ Divergence อาจเกิดนาน ควรรอการยืนยันก่อนดำเนินการเทรด


เคล็ดลับการใช้ Know Sure Thing Indicator อย่างมีประสิทธิภาพ


  • หลีกเลี่ยงการใช้ KST เพียงอย่างเดียว: ควรผสมผสานกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เช่น RSI ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือโซนแนวรับแนวต้าน

  • ใช้ในตลาดที่มีแนวโน้ม: KST จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมีแนวโน้มที่ชัดเจน หลีกเลี่ยงการใช้ในช่วงที่ราคาขึ้นลงไซด์เวย์หรือมีความผันผวนต่ำ

  • ระมัดระวังเมื่อใกล้เส้นศูนย์: การตัดกันรอบเส้นศูนย์อาจให้สัญญาณหลอก ควรรอการยืนยันก่อนตัดสินใจเทรด

  • ปรับแต่งการตั้งค่า: ควรปรับพารามิเตอร์ ROC และ SMA เพื่อให้ตรงกับความผันผวนของสินทรัพย์ที่คุณกำลังเทรด


สรุป


Know Sure Thing Indicator เป็นเครื่องมือที่มีความเฉพาะตัวและทรงพลังในการประเมินแรงโมเมนตัมของตลาดในหลายช่วงเวลา แม้จะไม่ได้รับความนิยมเท่า MACD หรือ RSI แต่ KST ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าสำหรับนักเทรดสาย Swing และ Position ที่ต้องการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มและยืนยันแรงโมเมนตัม


เมื่อใช้งานร่วมกับการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม การวิเคราะห์ราคาหุ้น (Price Action) และอินดิเคเตอร์อื่น ๆ KST จะกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมกลยุทธ์การเทรดของคุณ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของเครื่องมือนี้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและการนำไปใช้ให้ถูกต้องของผู้ใช้งานแต่ละคน


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

ราคาหุ้น Tesla ผันผวนท่ามกลางความเชื่อมั่นของ Robotaxi

ราคาหุ้น Tesla ผันผวนท่ามกลางความเชื่อมั่นของ Robotaxi

ราคาหุ้น Tesla พุ่งสูงจากกระแสข่าวเกี่ยวกับ Robotaxi แต่การเพิ่มขึ้นที่ลดลงและความกังวลเรื่องการประเมินมูลค่าเผยให้เห็นความเสี่ยงที่อยู่เบื้องหลังแนวโน้มขาขึ้น

2025-06-27
เลือกกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ

เลือกกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ

ค้นพบกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับเป้าหมาย เวลา และระดับความเสี่ยงของคุณ เหมาะสำหรับการเริ่มต้นด้วยความชาญฉลาดและซื้อขายด้วยความมั่นใจ

2025-06-27
พื้นฐานของ SPY ETF: โครงสร้าง ต้นทุน และการทำงานของมัน

พื้นฐานของ SPY ETF: โครงสร้าง ต้นทุน และการทำงานของมัน

สำรวจโครงสร้าง ต้นทุน และผลประโยชน์ของ SPY ETF ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสัมผัสกับดัชนี S&P 500

2025-06-27