ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ในการซื้อขายคืออะไร? มีคำอธิบาย

2025-06-10
สรุป

Hidden Divergence คือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ระบุแนวโน้มที่อาจดำเนินต่อไป เรียนรู้ว่ามันคืออะไรและผู้ค้าใช้มันเพื่อระบุโอกาสทางการตลาดได้อย่างไร

Hidden Divergence เป็นแนวคิดในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ช่วยให้ผู้ซื้อขายคาดการณ์การดำเนินต่อไปของแนวโน้มปัจจุบันได้ ซึ่งแตกต่างจาก Divergence ทั่วไปที่มักส่งสัญญาณการกลับตัว Hidden Divergence แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มที่มีอยู่มีแนวโน้มที่จะคงอยู่ต่อไป การรับรู้ถึง Hidden Divergence สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าแก่ผู้ซื้อขายได้ ช่วยให้พวกเขาเข้าสู่การซื้อขายด้วยความมั่นใจมากขึ้นในตลาดที่มีแนวโน้ม


บทความนี้จะอธิบายว่า Hidden Divergence คืออะไร แตกต่างจาก Divergence ทั่วไปอย่างไร ผู้ซื้อขายระบุ Hidden Divergence ได้อย่างไร และสามารถนำ Hidden Divergence เข้าไว้ในกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างไร


ทำความเข้าใจพื้นฐานของการแยกส่วน

Hidden Divergence

หากต้องการเข้าใจความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด จำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าความแตกต่างหมายถึงอะไรในการซื้อขาย ความแตกต่างเกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์เคลื่อนไหวไปในทิศทางหนึ่ง ในขณะที่ตัวบ่งชี้ เช่น ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) หรือดัชนีการบรรจบกันของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MACD) เคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้าม ความคลาดเคลื่อนนี้สามารถบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในทิศทางของราคาได้


ความแตกต่างมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ความแตกต่างแบบปกติและความแตกต่างแบบซ่อนเร้น ความแตกต่างแบบปกติมักจะเตือนผู้ซื้อขายถึงการกลับตัวของแนวโน้มที่เป็นไปได้ ในขณะที่ความแตกต่างแบบซ่อนเร้นบ่งชี้ว่าแนวโน้มมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป


ความแตกต่างที่ซ่อนเร้นคืออะไร?


การแยกทางที่ซ่อนอยู่จะปรากฏขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดต่ำที่สูงขึ้นในแนวโน้มขาขึ้นหรือจุดสูงที่ต่ำกว่าในแนวโน้มขาลง แต่ตัวบ่งชี้จะสร้างจุดต่ำที่ต่ำกว่าหรือจุดสูงที่สูงขึ้นตามลำดับ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคาจะยังคงแข็งแกร่งแม้จะมีการย้อนกลับหรือการแก้ไขเล็กน้อย


ในแนวโน้มขาขึ้น การแยกตัวของแนวโน้มขาขึ้นที่ซ่อนอยู่จะเกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดต่ำที่สูงขึ้น แต่ตัวบ่งชี้สร้างจุดต่ำที่ต่ำลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มพื้นฐานยังคงอยู่ และราคามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อไป


ในทางกลับกัน ในแนวโน้มขาลง การแยกตัวของแนวโน้มขาลงที่ซ่อนอยู่จะเกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า แต่ตัวบ่งชี้สร้างจุดสูงสุดที่สูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงขายยังคงแข็งแกร่ง และแนวโน้มขาลงน่าจะคงอยู่ต่อไป


ผู้ซื้อขายระบุความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ได้อย่างไร

Hidden Divergence vs Regular Divergence

เทรดเดอร์มักใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น RSI, MACD หรือสุ่มออสซิลเลเตอร์ เพื่อระบุความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของราคากับการเคลื่อนไหวของตัวบ่งชี้เหล่านี้


ตัวอย่างเช่น ในแนวโน้มขาขึ้น เทรดเดอร์จะมองหาจุดต่ำที่สูงขึ้นของราคาควบคู่ไปกับจุดต่ำที่ลดลงของตัวบ่งชี้ ความไม่ตรงกันนี้บ่งบอกถึงความแตกต่างในทิศทางขาขึ้นที่ซ่อนอยู่ และโอกาสที่อาจเกิดขึ้นในการเข้าหรือเพิ่มตำแหน่งซื้อ


ในแนวโน้มขาลง เทรดเดอร์จะเฝ้าดูจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าของราคาควบคู่ไปกับจุดสูงสุดที่สูงขึ้นของตัวบ่งชี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงความแตกต่างทางลบที่ซ่อนอยู่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณให้เปิดหรือเพิ่มตำแหน่งขาย


การระบุความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ต้องอาศัยการสังเกตและฝึกฝนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากสัญญาณเท็จอาจเกิดขึ้นได้ในตลาดที่มีความผันผวนหรืออยู่ในกรอบ การใช้เครื่องมือยืนยันเพิ่มเติม เช่น การวิเคราะห์ปริมาณหรือระดับแนวรับและแนวต้านสามารถปรับปรุงความแม่นยำได้


เหตุใดการแยกทางที่ซ่อนเร้นจึงมีความสำคัญในการซื้อขาย


การแยกทางที่ซ่อนเร้นนั้นมีค่าเพราะช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถติดตามแนวโน้มได้แทนที่จะคาดการณ์การกลับตัวเร็วเกินไป ในตลาดที่มีแนวโน้ม การเข้าทำการซื้อขายในช่วงที่มีการปรับฐานระยะสั้นอาจนำไปสู่ราคาเข้าที่ดีกว่าและอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ดีขึ้น


ต่างจากการแยกทางปกติที่เตือนผู้ซื้อขายถึงความหมดแรงของแนวโน้ม การแยกทางที่ซ่อนอยู่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าแนวโน้มปัจจุบันมีความแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป ซึ่งทำให้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ซื้อขายที่ชอบใช้กลยุทธ์การติดตามแนวโน้ม


นอกจากนี้ การแยกทางที่ซ่อนเร้นยังสามารถใช้ได้ในตลาดต่างๆ เช่น ฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินดิจิทัล ความหลากหลายของการแยกทางนี้ทำให้ผู้ซื้อขายในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ สามารถได้รับประโยชน์จากการรับรู้สัญญาณเหล่านี้


การใช้ Hidden Divergence ในกลยุทธ์การซื้อขาย

Hidden Divergence Trading Strategy

การรวมความแตกต่างที่ซ่อนอยู่เข้ากับแผนการซื้อขายโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการรวมเข้ากับตัวบ่งชี้และเทคนิคการจัดการความเสี่ยงอื่นๆ ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์อาจใช้ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ร่วมกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือเส้นแนวโน้มเพื่อยืนยันทิศทางของแนวโน้ม


จุดเข้าที่อิงตามความแตกต่างที่ซ่อนอยู่มักจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการย่อตัวหรือการแก้ไขภายในแนวโน้ม ทำให้ผู้ซื้อขายสามารถเข้าได้ในราคาที่เอื้ออำนวยมากขึ้น การกำหนดคำสั่งตัดขาดทุนไว้ต่ำกว่าจุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุดในช่วงล่าสุดจะช่วยจัดการความเสี่ยงได้


สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือไม่มีตัวบ่งชี้ตัวใดตัวหนึ่งที่จะรับประกันความสำเร็จได้ ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ควรเป็นองค์ประกอบหนึ่งในกลยุทธ์การซื้อขายที่ครอบคลุมซึ่งรวมถึงการจัดการเงินและวินัยที่เหมาะสม


ข้อจำกัดของการแยกทางที่ซ่อนเร้น


แม้ว่าการแยกทางที่ซ่อนเร้นอาจเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อจำกัด ความท้าทายประการหนึ่งก็คือ การแยกทางอาจสร้างสัญญาณเท็จได้ โดยเฉพาะในตลาดที่ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน ในสภาวะเช่นนี้ เทรดเดอร์อาจถูกหลอกให้เข้าสู่การซื้อขายที่กลับตัวอย่างรวดเร็ว


นอกจากนี้ ความแตกต่างที่ซ่อนเร้นยังขึ้นอยู่กับตัวบ่งชี้ทางเทคนิค ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้วมักจะล่าช้าเนื่องจากต้องพึ่งพาข้อมูลราคาในอดีต ข่าวหรือเหตุการณ์ในตลาดที่เกิดขึ้นกะทันหันอาจลบล้างสัญญาณที่สร้างขึ้นจากความแตกต่างที่ซ่อนเร้น


เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ เทรดเดอร์ควรใช้ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ร่วมกับวิธีการวิเคราะห์อื่นๆ เสมอ การทดสอบกลยุทธ์ในบัญชีทดลองสามารถช่วยให้เทรดเดอร์มีความมั่นใจและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่มีค่าใช้จ่ายสูงได้


บทสรุป


ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่เป็นแนวคิดที่มีค่าซึ่งบ่งชี้ถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มและช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้ในตลาดที่มีแนวโน้ม โดยการเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของราคากับตัวบ่งชี้ทางเทคนิค ผู้ซื้อขายสามารถระบุโอกาสในการเข้าหรือเพิ่มตำแหน่งระหว่างการย่อตัวได้


ข้อดีของตัวบ่งชี้นี้คือช่วยเสริมความแข็งแกร่งของแนวโน้มที่มีอยู่แทนที่จะเตือนถึงการกลับตัว อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับตัวบ่งชี้อื่นๆ การแยกทางที่ซ่อนเร้นก็ไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน และควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ และการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม


หากฝึกฝนและใช้ด้วยความระมัดระวัง ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่จะกลายมาเป็นส่วนสำคัญที่น่าเชื่อถือในกล่องเครื่องมือของเทรดเดอร์ ช่วยปรับปรุงทั้งจังหวะเวลาและความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อขาย


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

MACD สำหรับ Day Trader: ปรับแต่งเพื่อสัญญาณที่เร็วขึ้นและชาญฉลาดยิ่งขึ้น

MACD สำหรับ Day Trader: ปรับแต่งเพื่อสัญญาณที่เร็วขึ้นและชาญฉลาดยิ่งขึ้น

ค้นพบวิธีปรับแต่งการตั้งค่า MACD ให้เหมาะสมสำหรับการซื้อขายรายวัน หลีกเลี่ยงการแกว่งตัวของราคา และปรับปรุงสัญญาณเข้าด้วยพารามิเตอร์ที่รวดเร็วและเครื่องมือยืนยันอันชาญฉลาด

2025-06-12
ประวัติราคาน้ำมันตกต่ำ: เปรียบเทียบปี 2025 กับเหตุการณ์ตกต่ำในอดีต

ประวัติราคาน้ำมันตกต่ำ: เปรียบเทียบปี 2025 กับเหตุการณ์ตกต่ำในอดีต

ราคาน้ำมันที่ร่วงลงในปี 2025 แตกต่างจากครั้งก่อนๆ อย่างไร? มาดูกันว่าราคาน้ำมันที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับครั้งก่อนๆ เป็นอย่างไร และส่งผลต่อนักลงทุนอย่างไร

2025-06-12
คำอธิบายเกี่ยวกับ Nasdaq 100 Futures สำหรับผู้ซื้อขายรายใหม่

คำอธิบายเกี่ยวกับ Nasdaq 100 Futures สำหรับผู้ซื้อขายรายใหม่

ค้นพบว่า Nasdaq 100 Futures คืออะไร ทำงานอย่างไร และกลยุทธ์สำคัญสำหรับผู้ค้ารายใหม่ที่ต้องการสัมผัสกับหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำและจัดการความเสี่ยง

2025-06-12