ตลาดน้ำมันร่วงลงในวันศุกร์ หลังประธานาธิบดีทรัมป์กดดันให้โอเปกและซาอุดิอาระเบียลดราคาน้ำมัน เพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำมันดิบ
ตลาดน้ำมันร่วงลงในวันศุกร์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กดดันให้กลุ่มโอเปกและซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้นำโดยพฤตินัย ลดราคาน้ำมัน เพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำมันดิบให้เพิ่มขึ้น
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียในเดือนพฤศจิกายนพุ่งสูงสุดในรอบ 8 เดือน อิหร่านส่งสารปรองดองถึงผู้นำชาติตะวันตกที่เมืองดาวอส โดยปฏิเสธว่าไม่ต้องการอาวุธนิวเคลียร์
ทรัมป์กล่าวว่าจะเพิ่มภาษีศุลกากรใหม่ให้กับคำขู่คว่ำบาตรรัสเซีย หากประเทศดังกล่าวไม่บรรลุข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน เครมลินกล่าวว่าจนถึงขณะนี้ รัสเซียไม่ได้รับข้อเสนอที่ชัดเจนสำหรับการเจรจา
เขายังกล่าวอีกว่ารัฐบาลของเขา "อาจจะ" หยุดซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลา การส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาไปยังสหรัฐพุ่งสูงขึ้น 64% เป็น 222,000 บาร์เรลต่อวันในปีที่แล้ว ทำให้เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากจีน
EIA เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ลดลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ปริมาณลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์กับแคนาดาและเม็กซิโกน่าจะเป็นเหยื่อรายแรก และประธานาธิบดีคนใหม่ที่อาจผลักดันให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นนั้น มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบด้วยเช่นกัน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 ดอลลาร์ โดยไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวมากนัก ดังนั้นราคาน้ำมันดิบจึงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงไปที่ 75.6 ดอลลาร์
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ