ราคาน้ำมันดิบคงที่ในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลง หลังจากร่วงลงเกือบ 3% เนื่องด้วยการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
ราคาน้ำมันทรงตัวในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงหนุนจากการไหลออกของน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ ในปริมาณมาก โดยราคาน้ำมันลดลงเกือบ 3% ในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กำลังเข้าใกล้ข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน
แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ด้วยว่า น้ำมันดิบจะไม่ได้รับการยกเว้นจากภาษี 25% ที่ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บกับสินค้าทั้งหมดที่นำเข้ามาสหรัฐฯ จากเม็กซิโกและแคนาดา
ประกาศดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง เนื่องจากนโยบายดังกล่าวไม่น่าจะได้รับการนำไปปฏิบัติ ราคาน้ำมันเบนซินที่ถูกลงเป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญสูงสุดของทรัมป์ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูง
การผลิตน้ำมันดิบจากอิรัก คาซัคสถาน และรัสเซีย ลดลงตามการปรับลดการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ซึ่งสนับสนุนให้ราคาน้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในระยะใกล้ โกลด์แมน แซคส์กล่าว
ประเทศสมาชิกโอเปก+ กำลังหารือกันถึงการเลื่อนกำหนดการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปอีก ซึ่งเดิมกำหนดจะเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม แหล่งข่าวสองรายจากกลุ่มผู้ผลิตกล่าวเมื่อวันอังคาร ก่อนการประชุมในวันอาทิตย์
EIA รายงานว่าสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งขัดแย้งกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 46,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 605,000 บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ WTI ยังคงติดอยู่ในช่วงระหว่าง 66.5 ถึง 72.5 ดอลลาร์ โดยราคามีแนวโน้มต่ำสุดก่อนที่จะดีดตัวกลับ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ