ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพุธเนื่องจากความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ และความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แม้ว่าดอลลาร์จะแข็งค่าก็ตาม
ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพุธ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนก็ตาม
ผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่าราคาทองคำแท่งจะพุ่งขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เอื้ออำนวยและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์น่าจะยังคงดึงดูดใจต่อไป โดยสินทรัพย์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 35% ในปีนี้
การโจมตีเมื่อวันเสาร์ถือเป็นครั้งแรกที่อิสราเอลยอมรับว่าได้โจมตีอิหร่าน ทำให้สงครามเงาเปิดเผยและก้าวข้ามขีดจำกัดที่ทำให้คนบางกลุ่มในสาธารณรัฐอิสลามตั้งคำถามถึงความสามารถในการยับยั้ง
ผลสำรวจความคิดเห็นยังคงบ่งชี้ว่าการแข่งขันระหว่างทรัมป์และแฮร์ริสยังคงสูสีเกินไป ทั้งอัตราผลตอบแทนของดอลลาร์และพันธบัตรรัฐบาลยังได้รับแรงหนุนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากมีสัญญาณว่าทรัมป์ได้เปรียบในรัฐสำคัญๆ
เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมกล่าวว่าผู้ซื้อทองคำชาวอินเดียต่างพากันซื้อทองคำในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ซบเซา ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำโลกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ความต้องการทองคำในจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก ลดลงมากกว่า 20% ในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์และเศรษฐกิจที่ซบเซา ส่งผลให้การบริโภคลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเครื่องประดับ
ทองคำแท่งเข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป ดังนั้นราคาอาจปรับตัวลงมาที่ 2,860 ดอลลาร์ แต่คาดว่าแนวโน้มขาขึ้นจะดำเนินต่อไป โดยราคาจะเคลื่อนตัวออกจากเส้น SMA 50 มากขึ้น
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ