ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในวันอังคาร เนื่องจากแผนของสหรัฐฯ ที่จะซื้อน้ำมัน 3 ล้านบาร์เรลให้กับ SPR ช่วยเพิ่มกำลังซื้อ โดยที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงเป็นจุดสนใจหลักของตลาด
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นในวันอังคาร เนื่องจากสหรัฐฯ มีแผนซื้อน้ำมันดิบ 3 ล้านบาร์เรลเพื่อสนับสนุน SPR โดยตลาดยังคงจับตามองสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
สัญญาอ้างอิงทั้งสองรายการร่วงลง 6% ในช่วงก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. หลังจากการโจมตีตอบโต้ของอิสราเอลต่ออิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแซงหน้าโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันของเตหะรานไป
วอชิงตันได้เตือนอิหร่านที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถึง "ผลลัพธ์ที่ตามมาร้ายแรง" หากอิหร่านดำเนินการรุกรานอิสราเอลหรือเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางต่อไป
ทีมสินค้าโภคภัณฑ์ของ Citigroup ปรับลดเป้าหมายราคาน้ำมันดิบ Brent ในระยะสั้นลง 4 ดอลลาร์เป็น 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันอาทิตย์ และเพิ่มความน่าจะเป็นของสถานการณ์ฐานขึ้น 10% เป็น 70% โดยอ้างถึง "เบี้ยประกันความเสี่ยงที่ต่ำลง"
ธนาคารไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะพุ่งสูงถึง 120 ดอลลาร์ออกไป แต่คาดว่าโอกาสที่ราคาน้ำมันจะพุ่งนั้นอยู่ที่ไม่เกิน 10% ตามข้อมูลของ EIA อิหร่านคิดเป็น 4% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก
รายงานระบุว่า หลังจากทบทวนเหตุการณ์ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญๆ นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 สิ่งสำคัญที่สุดที่ได้เรียนรู้ก็คือ เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันจริงหรืออาจเกิดขึ้นได้นั้น มักจะไม่เกิดขึ้นนานเกินกว่าไม่กี่ไตรมาสเท่านั้น
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเกินไปที่จะลบล้างแนวโน้มขาลงได้ โดยมีแนวรับอยู่ที่ราว 70 ดอลลาร์ หากระดับทางจิตวิทยาลดลงอีกครั้ง ราคาอาจปรับตัวลดลงไปที่ 68.5 ดอลลาร์ โดย SMA 200 ยังคงเป็นแนวต้านสำคัญ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ